โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อสุพจน์ (พระสมุทรสุธี) วัดกลางเหนือ พระนักพัฒนาของเมืองแม่กลอง

ภาพถ่ายหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ สมุทรสงคราม
หลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ สมุทรสงคราม

         หลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ หรือ พระสมุทรสุธี วัดกลางเหนือ ท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเพชร วัดไทรโยค และเป็นนักพัฒนาที่โด่งดังอีกรูปหนึ่งของบางคนที สมุทรสงคราม

         หลวงพ่อสุพจน์ พื้นเพท่านอยู่บ้านท่าโป่ง อำเภอเมือง กาญจนบุรี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๕ ซึ่งตรงกับปีชวด เดือน ๕ แรม ๑๓ ค่ำ  โยมบิดาของท่านชื่อนายปลีก โยมมารดาของท่านชื่อนางเผื่อน หลังท่านเกิดไม่นานโยมบิดาของท่านซึ่งเป็นทหาร ก็เสียไปด้วยโรคอหิวาตกโรค 

         ท่านจึงย้ายมาอยู่กับหลวงปู่เพชร เจ้าอธิการวัดสามจีน ผู้มีศักดิ์เป็นตา เมื่อมาอยู่ที่วัดสามจีน ท่านได้เรียนหนังสือขอม - ไทย โดยหลวงปู่เพชรเป็นผู้สอนให้เอง เมื่อท่านเห้นว่าอ่านและเขียนทั้งขอม - ไทยได้พอสมควรแล้วท่านก็เริ่มสอนมูลกัจจายน์(รากเง่าของภาษา) ให้อีก

         ในสมัยเด็กท่านเป็นเด็กที่เกเรมาก มีวีรกรรมที่สร้างชื่อคือวันหนึ่งไปฉี่ใส่บอนของหลวงปู่เพชรตายเกือบหมด หลวงพ่อจึงลงโทษโดยการจับไปขังไว้ในกรงนกกาเหว่า เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว กลุ่มสหายจึงเรียกว่า "เหว่า" และเรียกชื่อนี้มาโดยตลอด 

หลวงพ่อเพชร (ปุญญวชิโร) วัดไทรโยค หรือ วัดตรีจินดาวัฒนาราม

        นอกจากนี้ยังมีวีรกรรมอื่นๆอีก ทั้งแอบใส่กัญชาลงไปในแกง ที่มีคนนำมาถวายพระ เมื่อพระฉันแล้วกัญชาออกฤทธิ์ พระทั้งวัดจึงเมากัญชากันหมด เมื่อหลวงปู่เพชรทราบและสืบสาวราวเรื่อง จึงให้ท่านท่องสามเณรสิกขา ปัจจัยสันนิสิตศีล ทั้งบาลีและคำแปลได้หมดแล้วจึงบวชให้เป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เวลา ๒๔.๐๐ น. และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "โซน" ซึ่งแปลงมาจากคำว่าซน

         เมื่อบวชแล้วจึงได้เรียนมูลกัจจายน์ใหม่ และปีนั้นเองท่านได้ขอลาหลวงปู่เพชรไปธุดงค์กับพระชั้น ไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง ที่เมืองร่างกุ้ง พระมุเตา ที่เมืองหาสาวดี พระนอนและพระเจดีย์ลอยที่ประเทศพม่า 

         โดยออกเดินทางเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ตอนกลับพระชั้นชวนกลับ แต่ท่านไม่กลับยังขอเดินธุดงค์ไปพระเจดีย์ชเวดากองให้ได้ พระชั้นท่านเลยกลับก่อน สามเณรโซน ท่านเดินธุดงค์แต่เพียงผู้เดียวถึง ๔ เดือนจนสำเร็จที่ตั้งใจจึงเดินทางกลับวัดสามจีน

         เมื่อกลับมาถึงวัดสามจีนแล้วก็ได้รับข่าวร้ายว่าหลวงปู่เพชร ได้มรณภาพลงเสียก่อนแล้ว ท่านจึงอยู่กับพระอาจารย์พับ ฐิตินฺทริโย (ตอนหลังพระอาจารย์พับ ได้ย้ายจากวัดตรีฯ ไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบางกล้วย) 

        ได้เข้าเรียนนักธรรมที่วัดกลางเหนือ ณ ศาลาขวาง (หลังเก่าปัจจุบันท่านได้รื้อไปปลุกสร้างใหม่แล้ว) ในสมัยนั้นมีสำนักเรียนแห่งเดียว สอบได้นักธรรมตรีที่นี่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๓ 

         ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ เมื่อปลงศพคุณตา(หลวงปู่เพชร)แล้ว จึงขอร้องให้ท่านอาจารย์พับนำไปฝากเรียนบาลีที่วัดประดู่ฉิมพลี ตำบลท่าพระ อำเภอบางกอกใหญ่ จังหวัดธนบุรี อยู่กับพระครูวิริยะกิติ (หลวงปู่โต๊ะ)  และปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ท่านก็สอบนักธรรมโทได้ ในนามวัดมหาธาตุ พระนครฯ ปิดภาคเรียนแล้วจึงกลับมาที่วัดตรีฯ 

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ สามเณรโซน ท่านมีอายุครบบวชจึงได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดตรีจินดาฯ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมสโร" โดยมี  

         พระครูสกลวิสุทธิ เจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์

         พระอธิการอุ่ม ธมฺมโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพลับ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

         พระอาจารย์พับ ฐิตินฺทริโย วัดบางกล้วย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (สมัยนั้นให้พระกรรมวาจาจารย์คู่)

         หลังจากอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่พรรษาที่วัดตรีจินดาฯ ได้ ๓ พรรษา จนถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘  ได้ย้ายไปช่วยพระอาจารย์พับ ที่วัดบางกล้วย เพื่อสนองพระคุณท่าน จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ครบ ๑๕ ปี ในวัดบางกล้วย 

หลวงพ่อพับ วัดบางกล้วย สมุทรสงคราม

         ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ท่านได้กลับไปเรียนภาษาบาลีที่สำนักวัดเกตุการาม ควบคู่ไปกับการสอนหนังสือที่สำนักวัดบางกล้วยด้วยพร้อมกัน

         ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "สุพจน์" ซึ่งช่วงนี้ท่านสามารถดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงได้ไปรับโยมมารดามาอยู่ด้วยเพื่อจะได้ปรนนิบัติโยมมารดาอย่างดีที่สุด จนโยมมารดาของท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ 

         ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านสอบเปรียญ ๓ ประโยคได้และสอบเปรียญ ๔ ประโยคได้

         ปี พ.ศง ๒๔๘๘ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระวินัยธร(ผู้พิพากษาศาลพระ) จังหวัดสมุทรสงคราม   

พระครูสกลวิสุทธิ์ หรือ หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ทางวัดกลางเหนือที่มีพระครูสกลวิสุทธิเป็นเจ้าอาวาส ท่านชราภาพลงมาก ล่วงไปตามสังขาร ไม่สามารถบำเพ็ญศาสนากิจได้เต็มที่ จึงได้ทำเรื่องขอตัวพระมหาสุพจน์ ธมฺมสโร วัดบางกล้วย มาช่วยงานเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสมุทรสุธี 

          ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ท่านได้รวมกับครูใหญ่โรงเรียนบางคนที (สกลวิสุทธิ์) ได้ขอเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนในระดับมัธยม

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๒

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงพ่อเหมือน ถึงแก่มรณภาพ หลวงพ่อสุพจน์จึงรักษาการณ์เจ้าอาวาส

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ หลวงพ่อสุพจน์ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ 

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ มีนามว่า "พระสมุทรสุธี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕

         หลวงพ่อสุพจน์ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคเยื้อหุ้มไตอักเสบและโรคหัวใจ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เวลา ๑๐.๑๗ น. นับรวมสิริอายุได้ ๕๘ ปี ๓๘ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ

         เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เพื่อแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน ลักษณธเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์มแบบมีหูในตัว เหรียญนี้ได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิชื่อดังในสมัยนั้นอาทิเช่น หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อเล็ก วัดตรีจินดาฯ หลวงพ่อสาย วัดจันทร์เจริญสุข เป็นต้น มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน อัลปาก้า ทองเหลือง และทองแดง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก 2513 อัลปาก้า
เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้ออัลปาก้า

เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก 2513 ทองแดง
เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้อทองแดง

          ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อสุพจน์ครึ่งองค์หันข้าง ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระสมุทรสุธี ธมฺมสโร วัดกลางเหนือ"

         ด้านหลัง มีอักขระยันต์อยู่ตรงกลางเหรียญ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ ๑๑ ม.ค. ๒๕๑๓"



โดย : สารานุกรม​พระเครื่อง​ลุ่ม​น้ำแม่กลอง
  
บทความที่เกี่ยวข้อง

***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้