โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม หรือ หลวงพ่อพระครูขันตยาภิรัต อีกหนึ่งเหรียญหายากของราชบุรี

ภาพถ่ายหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม ราชบุรี
หลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม ราชบุรี

          หลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม หรือ พระครูขันตยาภิรัต แห่งวัดหนองกระทุ่ม ท่านถือเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญของวัดหนองกระทุ่ม โดยหลวงพ่อป๋องนั้น เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม ที่โด่งดังในด้านวิทยาคมเป็นอย่างมาก วัตถุมงคลของท่านทุกชนิดได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

          หลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๒ ณ บ้านปากท่อ หมู่ที่ ๔ ตำบลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี 

          โยมบิดาชื่อนายเปี่ยม เกิดเปี่ยม โยมมารดาชื่อนางเอม เกิดเปี่ยม ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๑ คือ นายแมะ เกิดเปี่ยม ต่อมาไม่นานโยมมารดาของท่านได้เสียชีวิตลง เมื่อตอนที่ท่านมีอายุได้ ๕ ขวบ

          ต่อมาท่านมีอายุพอสมควรที่จะศึกษาศิลปวิทยาแล้ว นายเปี่ยม ผู้บิดาจึงได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือวัดที่วัดปากท่อ ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน

          หลังจากนั้นโยมบิดาได้เสียชีวิตเมื่อหลวงพ่อมีอายุได้ ๑๗ ปี ท่านจึงอาศัยอยู่กับนางพุ่ม เกิดเปี่ยม ผู้เป็นย่า ในสมัยเด็กท่านได้รับการฝากให้ไปเรียนหนังสือในสำนักวัดปากท่อ 

          ปี พ.ศ. ๒๔๔๒ หลวงพ่อป๋อง ท่านมีอายุครบบวช จึงขอผู้เป็นย่าทำการบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ณ พัทธสีมาวัดปากท่อ ตำบลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๒ เวลา ๐๙.๑๕ น. ได้รับฉายาว่า "ธมฺมโชโต" โดยมี

          พระอธิการเอี่ยม วัดบางจาก เป็นพระอุปัชฌาย์ 

          พระอธิการนวม วัดแจ้งเจริญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

          พระอธิการภู่ วัดปากท่อ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

          หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดปากท่อ ๑ พรรษา ร่ำเรียนวิชาในสำนักพระอนุสาวนาจารย์และปฏิบัติท่าน

          ปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ท่านก็ย้ายไปเรียนวิชากับหลวงพ่อนวม วัดแจ้งเจริญ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้เรืองวิชาอาคมมากในขณะนั้น ท่านเรียนทั้งด้านวิปัสสนากรรมฐานและไหว้พระสวดมนต์

          ปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ในพรรษาที่ ๘ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาวิชาต่างๆ จนในพรรษาที่ ๙ ท่านเกิดอาพาธด้วยโรคเหน็บชา และมีอาการกำเริบขึ้นตามลำดับ ทำให้การศึกษาต้องระงับลงอย่างเด็ดขาด

          ปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ในพรรษาที่ ๑๐ ท่านจึงตัดสินใจย้ายจากวัดเทพธิดารามไปอยู่ที่วัดบางขวด  (ปัจจุบันชื่อวัดนวลจันทร์) เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ อาการป่วยของท่านจึงได้ทุเลาลงบ้าง

          ครั้นต่อมาท่านได้พิจารณาเห็นว่า โรคอาพาธเบียดเบียนสังขารนัก หมดบุญวาสนาที่จะศึกษาต่อไปได้อีกแล้ว จึงย้ายจากวัดบางขวดกลับไปที่วัดปากท่อ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่วัดแจ้งเจริญอีก

          ปี พ.ศ. ๒๔๖๒ พระอาจารย์ผล เจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่มได้มรณภาพลง ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่มทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

หลวงพ่อป๋อง (พระครูขันตยาภิรัต) วัดหนองกระทุ่ม ราชบุรี

          วัดหนองกระทุ่ม เป็นวัดราษฏร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ ๒ ตําบลหนองกระทุ่ม อําเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี

          วัดหนองกระทุ่ม ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๗ ชื่อวัดตั้งตามชื่อหมู่บ้านหนองกระทุ่ม โดยมีนายเทพ และนางแย้ม เป็นผู้บริจาคที่ดินให้สร้างวัด

          วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙ มีเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ ทราบนามดังนี้

          ๑. พระพ่วง

          ๒. พระผล พ.ศ. ๒๔๔๑ - ๒๔๖๒

          ๓. พระครูขันตยาภิรัต (ป้อง ธมฺมโชโต) พ.ศ. ๒๔๖๒ - ๒๕๐๖ 

          ๔. พระครูสมุห์สนิท พ.ศ. ๒๕๐๖ - ๒๕๑๐

          ๕. พระครูสุจิตวรคุณ (สมจิตต์ วรจิตโต) พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๒๕๔๒

          ๖. พระครูพิมลสรกิจ (สาโชติ อาภาธโร) พ.ศ. ๒๕๔๒ - ปัจจุบัน

          หลังจากที่หลวงพ่อป๋องได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

          ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสด้วยจิตใจยึดมั่นต่อพระพุทธศาสนา และเร่งพัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองหมั่นพอสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดี

          ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ 

          ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) และด้วยการที่ท่านได้ประกอบคุณงามความดีปกครองคณะสงฆ์ด้วยความสงบ

          ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ หลวงพ่อป๋อง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูขันตยาภิรัต" และในปีนั้น ท่านได้สร้างโรงเรียนประชาบาล ตำบลหนองกระทุ่ม

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างโรงเรียนประชาบาลบ้านเขาช้าง

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ สร้างศาลาที่พักคนเดินทาง และถนนแยกจากถนนเพชรเกษม ตัดเข้าวัดหนองกระทุ่ม

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ สร้างกุฏิตึก ๑ หลัง

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ สร้างถังเก็บน้ำ

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ สร้างนอกชานคอนกรีต

หลวงพ่อป๋อง (พระครูขันตยาภิรัต) วัดหนองกระทุ่ม ราชบุรี

          จากคำบอกเล่าว่าหลวงพ่อป๋อง เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อท่านกล่าวเช่นใด เหตุการณ์ก็จะเป็นไปตามนั้น

          รวมทั้งหลวงพ่อป๋องยังเป็นผู้ที่ทำการบูรณะปฎิสังขรวัดหนองกระทุ่ม ให้มีความเจริญรุ่งเรือง จึงมีชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากให้ความเคารพนับถือศรัทธาในตัวหลวงพ่อป๋องเป็นอย่างมาก

          หลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม เป็นพระเกจิที่ผู้คนในแถบ ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี รู้จักท่านกันเป็นอย่างดี ซึ่งหลวงปู่ยวง วัดโพธิ์ศรี ศิษย์เอกของท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อป๋องท่านได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาจากหลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี

          ซึ่งหลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าอีกรูปของจังหวัดราชบุรี ท่านเป็นพระกะเหรี่ยง เดิมทีท่านจำพรรษาอยู่แถวสวนผึ้ง 

          ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแจ้งเจริญ โดยท่านมักจะโดนพวกกะเหรี่ยงด้วยกันลองของใส่ท่านอยู่เป็นประจำ หากแต่ท่านไม่เป็นไรเลย เพราะสามารถแก้ไขได้หมด

          หลวงวปู่ยวง บอกว่ากะเหรี่ยงมันลองวิชาโดยการฆ่าพระให้ถึงแก่มรณภาพ ซึ่งถ้าทำได้วิชาของมันจะแรงมาก แต่หลวงปู่นวม ท่านไม่เคยพลั้งพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว นานวันเข้าท่านเกิดความเบื่อหน่ายจึงย้ายมาพำนักอยู่ที่วัดแจ้งเจริญ จนถึงกาลมรณะภาพ

          หลวงพ่อป๋อง ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งทางด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด ตะกรุดของท่านหายากเป็นที่แสวงหากันเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อก่อนหลวงพ่อท่านทำแจกชาวบ้านทั่วไป 

          ส่วนใหญ่พวกที่มีไว้ครอบครองมักจะเป็นพวกชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา หรือสุจริตชนทั่วไป พวกนักเลงหัวไม้อย่าหวังจะได้ของจากท่าน เพราะท่านกลัวคนพวกนี้เมื่อได้ไปจะเอาไปใช้ในทางที่ผิด สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่น

          หลวงพ่อป๋อง ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงโดยอาการสงบด้วยโรคชราเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๖ นับรวมสิริอายุได้ ๘๔ ปี ๖๔ พรรษา หลังจากมรณภาพชาวบ้านและคณะศิษย์จึงมีการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อป๋องขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาได้กราบไหว้บูชามาจนถึงปัจจุบัน.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม

           เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อป๋อง รุ่นแรก (ยันต์เฑาะห์ใหญ่)

           สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่มีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อทองแดง ทองแดงกระไหล่ทอง และทองแดงกระไหล่เงิน จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

          จัดเป็นเหรียญหายากและมีราคาแพงเหรียญหนึ่งของหลวงพ่อป๋อง ด้วยจำนวนสร้างที่น้อยนิดและประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ต้องการของชาวราชบุรี

เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่นแรก พิมพ์ยันต์เฑาะห์ใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๘

          ด้านหน้า เป็นรูปแจำลองหลวงพ่อป๋อง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฎิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูขันตยาภิรัต เจ้าคณะตำบลหนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี"

          ด้านหลัง มีอักขระยันต์เทาะห์ขนาดใหญ่หนึ่งตัว

          เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อป๋อง รุ่นแรก (ยันต์เฑาะห์เล็ก)

           สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่มีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อทองแดง ทองแดงกระไหล่ทอง และทองแดงกระไหล่เงิน จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

          จัดเป็นเหรียญหายากและมีราคาแพงเหรียญหนึ่งของหลวงพ่อป๋อง ด้วยจำนวนสร้างที่น้อยนิดและประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ต้องการของชาวราชบุรี

เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่นแรก พิมพ์ยันต์เฑาะห์เล็ก ปี พ.ศ. ๒๔๙๘

          ด้านหน้า เป็นรูปแจำลองหลวงพ่อป๋อง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฎิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูขันตยาภิรัต เจ้าคณะตำบลหนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี"

          ด้านหลัง มีอักขระยันต์เทาะห์หนึ่งตัว อยู่ภายในกรอบรูปสี่เหลี่ยม มุมของกรอบมีตัวอุณาโลมอยู่มุมละ ๑ ตัว

           เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อป๋อง รุ่นสอง

           สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒  เพื่อแจกจ่ายบรรดาลูกศิษย์ลูกหาในคราวที่หลวงพ่อป๋องมีอายุครบ ๘๐ ปี ลักษณะเป็นเหรียญรูปพัดยศมีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อทองแดง

เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่น ๒ ปี พ.ศ. ๒๕๐๒

          ด้านหน้า เป็นรูปแจำลองหลวงพ่อป๋อง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฎิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูขันตยาภิรัต"

          ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานครบรอบอายุ ๘๐ ปี ๒๑/๓/๒๕๐๒"

           เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อป๋อง รุ่นสาม

           สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓  เพื่อแจกจ่ายบรรดาลูกศิษย์ลูกหาในคราวที่หลวงพ่อป๋องมีอายุครบ ๘๐ ปี ลักษณะเป็นเหรียญรูปพัดยศมีหูในตัว คล้ายเหรียญรุ่น ๒ ให้สังเกตุที่ปากหลวงพ่อจะงุ้มลง(หน้าดุ) สร้างด้วยเนื้อทองแดง และเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง

เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่น ๓ ปี พ.ศ.๒๕๐๓

          ด้านหน้า เป็นรูปแจำลองหลวงพ่อป๋อง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฎิ รูปปากของหลวงพ่อจะงุ้มลง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูขันตยาภิรัต"

          ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานครบรอบอายุ ๘๐ ปี ๒๑/๓/๒๕๐๓"

           เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อป๋อง รุ่นสี่

           สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕  ลักษณะเป็นเหรียญรูปใบเสมามีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อเงิน เนื้อทองแดง และเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง มีด้วยกัน ๒ พิมพ์คือ พิมพ์ปากขอบเดียว กับปาก ๒ ขอบ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่น ๔ ปี พ.ศ.๒๕๐๕ พิมพ์ปากขอบเดียว
เหรียญหลวงพ่อป๋อง วัดหนองกระทุ่ม รุ่น ๔ ปี พ.ศ.๒๕๐๕ พิมพ์ปาก ๒ ขอบ ของคุณขวัญชัย สวัสดี

          ด้านหน้า เป็นรูปแจำลองหลวงพ่อป๋อง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฎิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูขันตยาภิรัต"

          ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "๕/๓/๒๕๐๕" 

          พุทธคุณของท่าน ที่ทำให้โด่งดังนั้นเนื่องมาจากประสบการณ์ทางด้านคงกระพันชาตรี ที่เรียกกันว่าเหนียวสุดๆ ลูกศิษย์ท่านที่ยังอยู่และทราบประวัติอย่างชัดเจนในปัจจุบันคือหลวงพ่อยวง วัดโพธิ์ศรี จังหวัดราชบุรี และหลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด ซึ่งหลวงพ่อแถมนี้มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของท่านอีกด้วย.


ข้อมูล : พระปลัดจติชัย มหาวายาโม วัดปากท่อ ราชบุรี & หนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพระครูขันตยาภิรัต ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๗
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง


***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้