ประวัติและวัตถุมงคลของหลวงพ่อนวล วัดไทร สมุทรสงคราม ศิษย์สืบทอดวิชาของหลวงปู่อ่วม

พระอธิการนวล วัดไทร สมุทรสงคราม ถ่ายเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕

พระอธิการนวล วัดไทร หรือ หลวงพ่อนวล อดีตเจ้าอาวาสวัดไทร ตำบลกระดังงา อำเภอบางคณที จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านถือเป็นพระนักพัฒนาและพระเกจิยุคเก่าก่อนกิ่งพุทธกาลที่เก่งกาจอึปรูปหนึ่ง

หลวงพ่อนวลท่านไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกประวัติที่ชัดเจนของหลวงพ่อ ทราบเพียงว่าท่านเป็นชาวบ้านกระดังงา สมุทรสงคราม เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๗

เมื่อวัยเด็กโยมบิดาได้นำท่านมาฝากเรียนหนังสือกับเจ้าอธิการอ่วม เพื่อเรียนภาษาไทยและภาษาบาลี ตามหลักนิยมในสมัยนั้น

ปี พ.ศ. ๒๔๓๗ หลวงพ่อนวล ท่านมีอายุ ๒๐ ปี ครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดไทร ตำบลกระดังงา อำเภอบางคณที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับฉายาว่า "ธมฺมโชโต" โดยมี

พระอุปัชฌาย์อ่วม ติสฺสรสฺส วัดไทร เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดไทรเรื่อยมาเพื่อศึกษาวิชาอาคมและพระธรรมวินัย กับหลวงปู่อ่วม

ปี พ.ศ. ๒๔๕๙ หลวงปู่อ่วมได้มรณภาพลง ท่านจึงได้รักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด

ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของหลวงปู่อ่วม ชาวบ้านและคณะสงฆ์จึงพร้อมใจกันแต่งตั้งให้หลวงพ่อนวลเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

วัดไทร เป็นวัดราษฏร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมชื่อ "วัดไซ" วัดตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลกระดังงา อำเภอบางคณที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา แต่กลายเป็นวัดร้างมานานหลายปี

จนถึงปี พ.ศ. ๒๐๒๓ ขุนวิเศษฯ ซึ่งเป็นนายด่านพระเจดีย์สามองค์ เมืองกาญจนบุรี ได้มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ แต่นั้นมาก็เริ่มมีพระสงฆ์มาจำพรรษา แต่วัดก็ไม่ได้มีการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง เพียงแต่เป็นที่พำนักของพระสงฆ์ และเป็นที่ประกอบการบุญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น

ในอดีตวัดไทร เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางสวน ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ต่างๆและสงบเงียบ การเดินทางไปวัดสมัยก่อนโดยสารทางเรือ หรือไม่ก็เดินลัดเลาะไปตามร่องสวนค่อนข้างลำบาก จึงเป็นสถานที่มีความสงบวิเวก เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา

และเป็นที่พำนักของพระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคม แม้การเดินทางไปวัดไทร ในสมัยก่อนจะลำบากแต่ก็เป็นวัดที่พระสงฆ์ผู้ใฝ่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และวิทยาคมเดินทางไปเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชาอยู่เสมอ วัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ วัดมีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดดังนี้

๑. พระอุปัชฌาย์ปาน

๒. พระอธิการช่วง

๓. พระอธิการอิน

๔. พระอุปัชฌาย์พุ่ม ปญฺญาโชโต

๕. พระอุปัชฌาย์จั่น

๖. พระอุปัชฌาย์รอด ขนฺธสีโล

๗. พระอุปัชฌาย์ดัด (คงทอง)

๘. พระอุปัชฌาย์อ่วม ติสฺสรสฺส

๙. พระอธิการนวล ธมฺมโชโต พ.ศ. ๒๔๕๙ - พ.ศ. ๒๔๙๕

๑๐. พระครูพิชิตสมุทรการ (ศักดิ์ ฐิตธมฺโม) พ.ศ. ๒๔๙๕ - พ.ศ. ๒๕๒๔

๑๑. พระครูวิมลสมุทรวัฒน์ (เผือด) พ.ศ. ๒๕๒๔ - พ.ศ. ๒๕๓๑

๑๒. พระครูสมุทรสิทธิวัฒน์ (จรินทร์ ฐิตนนฺโท) พ.ศ. ๒๕๓๔ - พ.ศ. ๒๕๖๓

๑๓. พระสมุห์ธนพงษ์ (หน่อง กิตฺติวํโส) พ.ศ. ๒๕๖๕ - ปัจจุบัน

หลังจากที่หลวงพ่อนวลได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้เร่งปรับปรุงและก่อสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดจากที่เคยทรุดโทรมในยุคของหลวงปู่อ่วม ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง ตามรายละเอียดดังนี้

๑. อุโบสถของเก่ามุงกระเบื้องรางโบราณรั่วทำอุโบสถสังฆกรรมไม่ได้ต้อง เปลี่ยนตัวไม้บ้างตามที่ควรและมุงหลังคาใหม่

๒. หอสวดมนต์ ของเก่าเป็นเรือนโบราณใหญ่ขนาด ๕ ห้อง ชำรุดเสียหายใช้การไม่ได้ ต้องสร้างขึ้นใหม่

๓. เสนาสนะกุฏิ ของดั้งเดิมมี ๘ หลัง ๆ ละ ๕ ห้อง ได้ชํารุดเสียหายถึงกับโค่นไปก็มี เหลือเพียง ๒ หลังก็ชำรุดมาก ได้รวบรวมของเก่าและเพิ่มตัวไม้ใหม่ ทำการก่อสร้างให้คงสภาพเดิม เพื่อเป็นอนุสรณ์ไว้ได้ ๒ หลัง นอกนั้นก็ปฏิสังขรณ์กุฏิหลังเหล่านั้นไว้อีก ๒ หลัง

๔. ศาลาการเปรียญ ของเก่าชำรุดเสียหายใช้การไม่ได้ ต้องสร้างใหม่สำเร็จ ๑ หลัง

๕. ท่านได้สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้น โดยให้ศาลาการเปรียญเป็นสถานที่สอน ต่อมาทางราชการได้ย้ายไปไว้ที่วัดปากง่าม (ต่อมาหลวงพ่อศักดิ์ได้จัดตั้งโรงเรียนอีกครั้ง)

หลวงพ่อนวล ท่านได้สร้างวัดโดยมีพระศักดิ์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อสร้าง ทั้งการสร้างศาลาการเปรียญ โรงเรียนพระปริยัติธรรม และศาลาท่าน้ำ

หลวงพ่อนวล ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ตรงกับวันอังคาร แรม ๗ ค่ำเดือน อ้าย ปีมะโรง เวลา ๒๓.๒๐ น. นบรวมสิริอายุได้ ๗๘ ปี

วัตถุมงคลของหลวงพ่อนวล วัดไทร

เหรียญหลวงพ่อนวล วัดไทร รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ในสมัยที่หลวงพ่อศักดิ์เป็นเจ้าอาสวาส เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด และแจกลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่าน ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปพัดยศแบบมีหูในตัว หลวงพ่อศักดิ์ท่านปลุกเสกเดียว มีการสร้างด้วยเนื้องทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้