ประวัติและวัตถุมงคลพระครูห่วง วัดดอนเจดีย์ กาญจนบุรี ศิษย์หลวงปู่ดี วัดเหนือ
![]() |
หลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์ กาญจนบุรี |
หลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์ หรือ พระครูห่วง อีดตเจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ท่านมีนามเดิมว่าห่วง คชายุทธ พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๘ โยมบิดาชื่อนายคุ้ม คชายุทธ โยมมารดาชื่อนางสายทอง คชายุทธ ที่บ้านมีอาชีพทำนา โดยท่านเป็นลูกคนโต มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน คือ
๑. นางโย่ เพียรทอง
๒. นายชั้น คชายุทธ
๓. นายประชุม คชายุทธ
๔. นางมาลัย
๕. นายใหม คชายุทธ
ในวัยเด็กท่านได้ร่ำเรียนเขียนอ่านศึกษาอักษรสมัยเบื้องต้นที่วัดหนองขาว ตำบลหนองขาว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จนสามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ดี
ปี พ.ศ. ๒๔๕๘ หลวงพ่อห่วง ท่านมีอายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดดอนเจดีย์ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี
พระครูสิงคีคุณธาดา (ม่วง) วัดบ้านทวน เป็นพระอุป้ชฌาย์
พระครูวัตตสารโสภณ (หลวงพ่อดอกไม้) วัดดอนเจดีย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดดอนเจดีย์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาอาคมต่างๆ กับพระอาจารย์ได้เพียง ๒ พรรษา ท่านก็ได้ลาสิกขาไป
โดยท่านลาสิกขาไปครองชีวิตฆราวาส เมื่อท่านลาสิกขาแล้วออกไปแล้ว ก็ถูกเกณฑ์เป็นตำรวจ เพราะสมัยนั้นมีการเกณฑ์ตำรวจแบบเดียวกับเกณฑ์ทหารในปัจจุบัน ต่อมาท่านได้สมรสกับนางลิ้นจี่ มีบุตรด้วยกัน ๒ คน คือ
๑. นางสังเวียน
๒. นายหึ่ง คชายุทธ
หลวงพ่อห่วง ท่านได้รับราชการตำรวจต่อมาจนได้รับยศนายสิบตำรวจตรี แต่ทว่าชีวิตตนเรานั้นไม่แน่นอน ย่อมผันแปรไปตามกระแสของกรรมที่ตนได้กระทำไว้ ท่านพระครูห่วงในสมัยที่เป็นสิบตำรวจตรีนั้นก็เช่นกัน ได้ดำเนินชีวิตและประพฤติตนไปในทำนองที่เรียกว่า "นักเลง" และในที่สุดก็ออกจากราชการ
เมื่อเป็นดังนั้นพระอธิการเปาะ ธมฺมโชโต เจ้าอาวสดอนเจดีย์ ในสมัยนั้นเห็นว่า การดำเนินชีวิตของอดีตตำรวจตรีชักจะเลยเถิดไปไกลไร้สาระยิ่งขึ้น พระอธิการเปาะจึงได้ชักชวนให้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอีกครั้ง
ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ หลวงพ่อห่วงซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๔๗ ปี ท่านจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ณ พัทธสีมาวัดดอนเจดีย์ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมปาโล" โดยมี
พระวิสุทธรังษี (ดี) วัดเทวสังฆาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูวัตตสารโสภณ (ก้าน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระครูโกวิทสุตคุณ (ยอม) วัดหนองขาว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังบวชแล้วท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดดอนเจดีย์เรื่อยมา เพื่อศึกษาปฏิบัติพระธรรมวินัย และแม้อายุจะมากแล้ว ท่านก็ยังตั้งใจเรียนพระปริยัติธรรมจนสามารถสอบได้ นักธรรมตรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๖
ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านอธิการเปาะได้ลาสิกขา ทำให้ตำแห่นงเจ้าอาวาสวัดได้ว่างลง
ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ทางคณะกรรมการวัดจึงอารธนาให้หลวงพ่อห่วงซึ่งขณะนั้นบวชได้ ๓ พรรษา อายุ ๕๐ ปี อยู่รักษาการเจ้าอาวาส
ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ หลังจากที่หลวงพ่อห่วง รักษาการเจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ได้ ๒ ปี ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดดอนเจดีย์ เป็นวัดราษฏร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่บ้านดอนเจดีย์ หมู่ที่ ๒ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวนจังหวัดกาญจนบุรี วัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๓๕
เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันสร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีในทางศาสนา วัดได้รับวิสุงคามสีมา ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ มีเจ้าอาวาสปกครองวัดที่มีการจดบันทึกปรากฏตามหลักฐานดังนี้
๑. พระอธิการด้วง พ.ศ. – ๒๔๔๗ (ลาสิกขา)
๒. พระครูวัตตสารโสภณ (หลวงพ่อดอกไม้) ปทุมรัตโน พ.ศ. ๒๔๔๗ – ๒๔๗๖
๓. พระใบฎีกากรึก
๔. พระอธิการพรหม
๕. พระอธิการเปาะ ธรรมโชโต พ.ศ.– ๒๔๘๗ (ลาสิกขา)
๖. พระครูห่วง ธรรมปาโล พ.ศ. ๒๔๘๙ – ๒๕๑๒
๗. พระมหาแอ่ม ธฺติวณฺโน พ.ศ. ๒๕๑๓ – ๒๕๑๘ (ต่อมาเลื่อนเป็นพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไทรโยค)
๘. พระครูโสภณกาญจนกิจ(ประยูร) ปสนฺโน พ.ศ.๒๕๑๙ – ๒๕๓๔
๙. พระอธิการสุชล ถาวโร พ.ศ. ๒๕๓๖ – ๒๕๓๘
๑๐. พระครูสารกาญจนกิจ (สมพงษ์) กิจจสาโร พ.ศ. ๒๕๓๙ – ปัจจุบัน
หลังจากที่หลวงพ่อห่วงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ท่านได้บริจาคทรัพย์ในการสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดดอนเจดีย์
ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นประทวน
ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ท่านได้ดำริที่จะสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เนื่องจากพระอุโบสถหลังเดิมชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่สะดวกแก่การทำสังฆกรรมของภิกษุ ได้ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๐
ท่านเคยพูดเสมอว่า "จะตายก็ไม่ว่า ขอแต่ให้ได้สร้างโบสถ์สักหลัง แม้ได้เพียงครึ่งเดียวก็ยังดี" ซึ่งดูคล้ายกับทานจะรู้ว่าชิวิตท่านคงจะดำรงอยู่ต่อไปได้ไม่นานนัก เพราะท่านอาพาธหลายโรค แต่การก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างล่าช้าด้วยขาดทุนทรัพย์
หลวงพ่อห่วง ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๒ เวลา ๙.๑๕ น. นับรวมสิริอายุได้ ๗๕ ปี ๒๗ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์
เหรียญหลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์ รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยพระมหาแอ่มเจ้าอาวาสรูปถัดมา เพื่อแจกในงานฌาปนกิจของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหู มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์ กาญจนบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้อทองแดง |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อห่วง วัดดอนเจดีย์ กาญจนบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้อทองแดง ของคุณนคร ราชบุรี |
ด้านหน้า เป็นภาพถ่ายหลวงพ่อห่วงครึ่งองค์ห่มลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ที่ขอบเหรียญมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูห่วง วัดดอนเจดีย์ กาญจนบุรี"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านได้ว่า "นะ โม พท ธา ยะ" ใต้อักขระยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกงานฌาปนกิจศพ ๑๘ เมษายน ๒๕๑๓"
ไม่มีความคิดเห็น