โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เจ้าของตะกรุดหนังเสืออันลือลั่นของกาญจนบุรี

ภาพถ่ายหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี

         หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร วัดม่วงชุม หรือ "พระครูจันทสโรภาส" อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงชุม และอดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าตำรับตะกรุดโทนหนังเสืออันลือลั่น ท่านเป็นศิษย์และยังมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่เปลี่ยน (พระวิสุทธิรังษี) วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) พระเกจิชื่อดัง รวมทั้งเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง อีกทั้งมีความสนิทสนมอย่างมากกับ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จังหวัดนครปฐม ว่ากันว่าเรียนวิชาทำตะกรุดหนังเสือมาจากสำนักเดียวกัน

         นอกจากนี้ ยังมีสหธรรมิกอีกหลายท่านที่พบปะในงานพุทธาภิเษก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น

         หลวงพ่อเที่ยง ท่านมีนามเดิมว่า เที่ยง ท่านกเอี้ยง เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ปีชวด ที่บ้านม่วงชุม ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๑ เป็นบุตรของนายเขียว ท่านกเอี้ยง และนางทองแคล้ว ท่านกเอี้ยง มีพี่น้องรวม ๘ คน หญิง ๕ คน ชาย ๓ คน

ภาพถ่ายหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี

         ในวัยเด็กหลวงพ่อเที่ยง ท่านมีอุปนิสัยชอบทางด้านชกมวย และรักความยุติธรรม เป็นคนพูดแบบตรงไปตรงมาไม่เกรงกลัวใคร จึงเป็นที่รักของเด็กวัยเดียวกันยกให้เป็นพี่ใหญ่


         ปี พ.ศ. ๒๔๕๒ หลวงพ่อมีอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ ๒ ปี หลังปลดประจำการกลับมาอยู่บ้านประกอบอาชีพทำนา

         ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ หลวงพ่อเที่ยง ท่านมีอายุได้ ๒๔ ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบ้านถ้ำ ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายาว่า "จันทสโร"

         หลังจากบวชแล้วอยู่ศึกษาเล่าเรียนกับอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดม่วงชุม ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้าน โดยได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสืออย่างจริงจังและเต็มที่

         เนื่องจากในวัยเด็กมีโอกาสเล่าเรียนไม่มาก เพราะขาดแคลนครูและห้องเรียน ยิ่งเรียนท่านก็มีความสุขกับการเรียน ทำให้มีความแตกฉานเรื่องหนังสืออย่างมาก

         หลังจากศึกษาพระธรรมวินัย และพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาจนเชี่ยวชาญ ท่านจึงเริ่มหันมาศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) ในฐานะที่หลวงพ่อเที่ยงมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่เปลี่ยน จึงได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เปลี่ยนเป็นพิเศษในการถ่ายทอดสรรพวิชาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านพุทธาคม จนมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก

ภาพถ่ายหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม)
หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ พระอาจารย์ของหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม

          ชาวบ้านทั่วไปมักกล่าวขวัญว่า "ใครแขวนวัตถุมงคลของท่าน แมลงวันไม่ได้กินเลือด" หมายความว่า คนคนนั้นหนังเหนียว แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก

         แม้กระทั่งหลวงปู่แย้ม พระเกจิอาจารย์ดังแห่งวัดสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ยังกล่าวยกย่องหลวงปู่เที่ยงว่าท่านเก่งมาก โดยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง (อาจารย์หลวงปู่แย้ม) ซึ่งทั้ง ๒ ท่าน ต่างมีชื่อเสียงอย่างมากในการสร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ

         เป็นพระของชาวบ้านชนบทโดยแท้ พูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ภาษาที่ใช้สื่อสารก็เหมือนหลวงพ่อคูณเป็นภาษาไทยแท้ๆ ฟังไม่เพราะหู แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ญาติโยมที่ไปขอความช่วยเหลือจากท่านจะได้รับความเมตตาช่วยเหลือในทุกๆ เรื่องด้วยดี โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

         จากการบอกเล่าของชาวบ้านกล่าวว่า ท่านชอบกีฬาชกมวยอย่างมาก การละเล่นนิยมลิเกและหนังตะลุง ท่านเป็นพระโบราณลูกทุ่งชนบท ชอบฉันหมากไม่เคยขาดปากเลย จึงเป็นที่มาของการสร้างพระเครื่องเนื้อชานหมากที่โด่งดัง

ภาพถ่ายหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี

         หลวงพ่อเที่ยง ลงมือสร้างอุโบสถเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านค่อยๆสร้างพระอุโบสถตามกำลังที่มี โดยไม่มีการเรี่ยไร เพราะไม่ต้องการเป็นภาระของชาวบ้าน

         ในช่วงนั้นประเทศไทยยังตกอยู่ในระหว่างปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมืองกาญจนบุรีได้รับผลกระทบจากภัยสงครามอย่างมาก ด้วยทหารญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพหลายแห่ง ทำให้ทหารพันธมิตรนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเพื่อทำลายฐานทัพของญี่ปุ่น

         เป็นเหตุให้สภาพเศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพง แต่ชาวบ้านก็ช่วยบริจาคทุนทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๔

         หลวงพ่อเที่ยง ท่านมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่วัดม่วงชุม นับรวมสิริอายุได้ ๙๒ ปี  ๖๙ พรรษา 

         ทางวัดได้เก็บสรีระของท่านไว้ถึง ๑๐ ปี ปรากฏว่าสังขารของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย จึงพร้อมใจกันสร้างมณฑป พร้อมทั้งโลงแก้วบรรจุร่างไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นต้นมา

วัตถุมงคลของหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึกในคราวที่หลวงพ่อเที่ยงได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง และเนื้อทองแดงผิวไฟ เพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองแดง
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองแดง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม"

         ด้านหลัง มีรูปตาลปัตพัดยศ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระครูจันทสโรภาส ๒๕๐๘" 

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นสอง (เสาร์ห้า)

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยใช้แม่พิมพ์ของเหรียญรุ่นแรกมาใช้ในการสร้าง แต่ด้านหลังแกะขึ้นใหม่ มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง และเนื้อทองแดงผิวไฟ เพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นสอง เนื้อทองแดง 2509
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นสอง (เสาร์ห้า) ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม"

         ด้านหลัง มีรูปอุณาโลม มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "๐๙ เดือน ๕ เสาร์ ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ"

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่น ๓

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์ม หรือ รูปโล่แบบมีหูในตัว  มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง และเนื้อทองแดงผิวไฟ เพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่น 3 เนื้อทองแดง 2516
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่น ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง


         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม" 

         ด้านหลัง เป็นรูปยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานทำบุญอายุครบ ๗ รอบ ๑๑ มี.ค. ๑๖" มีการตอกโค้ด ท.ทหาร ไว้ใต้ยันต

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึกในงานทอดผ้าป่า มีการจัดสร้างด้วยเนื้อเงิน จำนวน ๙๙ เหรียญ เนื้อนวะโลหะ จำนวน ๓๕๐ เหรียญ และเนื้อทองแดง จำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ โดยเหรียญรุ่นนี้จะมีการตอกโค้ดตัว ท. ทหารในวงกลมไว้ที่ด้านหลัง 

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ เนื้อเงิน 2517
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ เนื้อเงิน
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ เนื้อนวะ 2517
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ เนื้อนวะโลหะ
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ เนื้อทองแดง 2517
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นพิเศษ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ เนื้อทองแดง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูจันทสโรภาส(เที่ยง)"

         ด้านหลัง เป็นรูปยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานทอดผ้าป่า ๑ ก.ย. ๑๗ วัดม่วงชุม กาญจนบุรี รุ่นพิเศษ" มีการตอกโค้ด ท.ทหาร ไว้ใต้ยันต์

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปเสมา แบบมีหูในตัว มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น ซึ่งเนื้อทองแดงนี้ยังแบ่งออกเป็น เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยา และเนื้อทองแดงรมดำ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น เนื้อทองแดง 2519
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยา
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น เนื้อทองแดงรมดำ 2519
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เนื้อทองแดง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูจันทสโรภาส(เที่ยง)"

         ด้านหลัง มีรูปพัดยศ และรูปเสือเผ่นใต้เสือมีเลขไทยเขียนว่า "๒๕๑๙" มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี"

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อ มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น ซึ่งเนื้อทองแดงนี้ยังแบ่งออกเป็น เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง เนื้อทองแดงรมดำ และเนื้อทองแดงลงยาสีต่างๆ โดยทุกเหรียญจะมีการตอกโค้ดที่ใต้อาสนะของหลวงพ่อ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง  2520
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ เนื้อทองแดง 2521
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เนื้อทองแดง
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยาสีชมพู  2520
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นผู้ชนะ ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยา

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง นั่งสมาธิเต็มองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ รัดประคต มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม อายุ ๙๐" มีการตอกโค้ด ไว้ใต้รูปหลวงพ่อ

         ด้านหลัง เป็นรูปยันต์สาม มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ผู้ชนะ กาญจนบุรี"

         เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น ๒

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปเสมา แบบมีหูในตัว โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึกในคราวที่หลวงพ่อเที่ยงได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรชั้นเอก มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น  ซึ่งเนื้อทองแดงนี้ยังแบ่งออกเป็น เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยา และเนื้อทองแดงรมดำ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม  เนื้อทองแดงลงยา 2522
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ เนื้อทองแดงกระไหล่ทองลงยา
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม  เนื้อทองแดง 2522
เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นเสือเผ่น ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ เนื้อทองแดง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง ครึ่งองค์ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูจันทสโรภาส(เที่ยง)"

         ด้านหลัง มีรูปพัดยศ และรูปเสือเผ่นใต้เสือมีเลขไทยเขียนว่า "๒๒" ซึ่งคืออายุของหลวงพ่อ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ชั้นเอก ๒๕๒๒ วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี"

         รูปหล่อหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ลักษณะเป็นรูปหล่อโบราณ สร้างด้วยเนื้อโลหะทองเหลืองรมดำ โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ของหลวงพ่อเที่ยง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปหล่อหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก
รูปหล่อหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม รุ่นแรก เนื้อทองเหลือง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง นั่งมารวิชัยบนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พ่อเที่ยง"

         ด้านหลัง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดม่วงชุม"

         ด้านฐาน เรียบ ไม่มีอักขระภาษาไทยใดๆ ในบางองค์อาจเห็นรอยอุดกริ่ง

         รูปเหมือนหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ลักษณะเป็นรูปเหมือนทรงจอบ สร้างด้วยเนื้อชานหมาก โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ของหลวงพ่อเที่ยง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปเหมือนหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก
รูปเหมือนหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเที่ยง นั่งมารวิชัยบนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ

         ด้านหลัง เป็นรูปยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม"

         สมเด็จปรกโพธิ์หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ลักษณะเป็นรูปพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ สร้างด้วยเนื้อชานหมาก โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ของหลวงพ่อเที่ยง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

สมเด็จหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก
สมเด็จปรกโพธิ์หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม เนื้อชานหมาก หลังติดหนังเสือ

         ด้านหน้า เป็นรูปพระสมเด็จพิมพฺปรกโพธิ์ ฐาน ๓ ชั้น โดยในแต่ละชั้นจะมีเส้นฐานซ้อนไว้

         ด้านหลัง ติดแผ่นหลังเสือไว้

         ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม

         สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. ๒๕๒๐ จัดเป็นเครื่องรางยุคแรกๆ ที่หลวงพ่อได้ทำการจัดสร้าง และทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง ลักษณะเป็นแผ่นหนังหน้าผากเสือตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดยาวประมาณ ๑.๕ นิ้ว โดยที่หลวงพ่อจะทำการจารอักขระลงในหนังหน้าผากเสือ 

ตะกรุดหนังหน้าผากเสือหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม

         แล้วจึงม้วนเป็นตะกรุด แล้วจึงถักด้วยด้ายสายสิญย์เพื่อให้ขึ้นรูปเป็นตะกรุดแล้วจึงลงรักปิดทอง เสร็จท่านจะหาฤกษ์ยามที่ดี แล้วจึงปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งก่อน 

         เชื่อกันว่าใครที่ได้ครอบครองจะมีฤทธิ์ด้านอยู่ยงคงกระพัน กันของมีคมและเขี้ยวงา เป็นมหาอำนาจมากด้วยบารมี เป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป จัดเป็นของหายากในปัจจุบัน จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้.



โดย : สารานุกรม​พระเครื่อง​ลุ่ม​น้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง


***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้