วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน เหรียญดังแค่ข้ามคืน

หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน สมุทรสงคราม

          หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านคือพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งของจัวหวัดสมุทรสงครามที่น่าเคารพนับถือ วัตถุมงคลของท่านโด่งดังเพิ่งชั่วข้ามคืนจากเหตุการณ์ที่ คนร้ายค้ายาเสพติดหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          เมื่อตำรวจที่ติดตามจับกุม ยิงคนร้ายด้วยปืนพก แต่มีแค่เสียงสับนกเท่านั้น ไม่มีเสียงดังของปืนที่วิ่งออกจากปากกระบอกปืนเลยแม้แต่นัดเดียว แต่หากยกปืนเพื่อยิงขึ้นฟ้าปืนนั้นถึงจะสามารถยิงออกได้ เมื่อตำรวจสามารถล้อมจับคนร้ายได้สำเร็จ จึงค้นตัวคนร้ายพบว่าห้อยเหรียญรุ่นแรกของท่านไว้เพียงองค์เดียวเท่านั้น

          หลวงพ่อกลึง ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๔ โยมบิดาของท่านชื่อกุน โยมมารดาชื่อแป้ง ในวัยเด็กท่านได้ศึกษาวิชาเขียนอ่านที่วัดนางตะเคียน กับหลวงพ่อพระอธิการพ่วง จนมีความรู้แตกฉาน 

          ในปี พ.ศ. ๒๔๓๕ หลวงพ่อกลึ่ง ท่านมีอายุได้ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดนางตะเคียน ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อบวชแล้วท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยาคมกับพระอธิการพ่วง

หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน สมุทรสงคราม

          หลังจากอุปสมบทได้ ๒ พรรษา ด้วยความจำเป็นท่านจึงต้องลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ จนกระทั่งบิดามารดาของท่านเสียชีวิตลง ยังความเสียใจให้กับท่านมาก 

          หลวงพ่อกลึง ท่านจึงได้อุปสมบทอีกครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ณ พัทธสีมาวัดนางตะเคียน ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับฉายาว่า "ธมฺมโชติ" โดยมี

          พระมหาสิทธิการ(แดง) วัดบ้านแหลม เป็นพระอุปัชฌาย์ 

          หลวงพ่อเอี่ยม วัดปากลัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

          พระอธิการแดง วัดตะเคียนเป็นพระอนุสาวนาจารย์

          หลังจากนั้นท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนางตะเคียน ในขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนางตะเคียนนั้นได้มีพระเถระผู้ใหญ่ ร่วมสำนักเดียวกันหลายรูป เช่น พระอธิการแดง เจ้าอาวาสวัดนางตะเคียน พระครูผล เจ้าอาวาสวัดปากลัด พระครูพูล เจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ ท่านจึงได้ศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมต่างๆ จากท่านอาจารย์เหล่านี้ 

          นอกจากนี้ท่านยังได้ไปศึกษาจากหลวงพ่อเอี่ยม วัดปากลัด ซึ่งตะกรุดของท่านนั้นมีชื่อเสียงนัก และได้เข้ามาศึกษาที่วัดบ้านแหลมอีกด้วย

          ปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ท่านได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วอุทยาน ซึ่งขณะนั้นวัดสวนแก้วอุทยานได้เสื่อมโทรมมาก ท่านก็ได้ซ่อมแซมและพัฒนาวัดสวนแก้วอุทยานโดยลำดับ

          ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลลาดใหญ่

          ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์

          หลวงพ่อกลึง ท่านได้อบรมสั่งสอนพระเณรและชาวบ้าน ให้คงอยู่ในศีลในธรรม จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก และท่านก็ได้พัฒนาวัดสวนแก้วฯ มาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ท่านจึงได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา สิริอายุได้ ๙๒ ปี พรรษาที่ ๖๒

วัตถุมงคลของหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน

ปี พ.ศ. ๒๔๙๕

          เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ มีลักษณะเป็นเหรียญอาร์มมีด้วยกัน ๒ พิมพ์คือ หลังยันต์ ๕ และหลังยันต์นะหน้าทอง โดยในปีนี้ท่านอายุครบ ๘๑ ปี ลูกศิษย์ของท่านคือพระครูสมุทรการโกวิทย์ เจ้าอาวาสวัดบางปืน เป็นผู้ดำริสร้าง มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียว และไม่ได้ระบุจำนวนที่สร้างไว้

          เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก หลังยันต์ห้า

         จัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียว เชื่อกันว่าหลวงพ่อกลึงเน้นให้เหรียญนี้ของท่าน มีพุทธคุณเน้นหนักไปทางคลาดแคล้ว คงกระพันชาตรี

เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก พิมพ์ยันต์ห้า ปี พ.ศ. ๒๔๙๕
เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก พิมพ์ยันต์ห้า ปี พ.ศ. ๒๔๙๕

          ด้านหน้า  จำลองรูปหลวงพ่อหันข้างครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฎิ ด้านข้างมีอักขระยันต์ "พุท โธ" ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อกลึง ธมฺมโชติ วัดสวนแก้ว ๒๔๙๕"

          ด้านหลัง  มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ และอักขระขอมล้อมรอบยันต์

          เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก หลังยันต์นะหน้าทอง

         จัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียว เชื่อกันว่าหลวงพ่อกลึงเน้นให้เหรียญนี้ของท่าน มีพุทธคุณเน้นหนักเมตตามหานิยม ค้าขายดี มีโชคลาภ

เหรียญหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก พิมพ์ยันต์นะหน้าทอง ปี พ.ศ. ๒๔๙๕

          ด้านหน้า  จำลองรูปหลวงพ่อหันข้างครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฎิ ด้านข้างมีอักขระยันต์ "พุท โธ" ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อกลึง ธมฺมโชติ วัดสวนแก้ว ๒๔๙๕"

          ด้านหลัง  มีอักขระยันต์นะหน้าทองและอักขระขอมล้อมรอบยันต์

ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

         ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ หลวงพ่อกลึง มีอายุครบ ๙๐ ปี คณะศิษย์จึงได้จัดงานแสดงกตัญญูกตเวที และในงานนี้ได้มีการจัดสร้าง วัตถุมงคลถึง ๓ แบบด้วยกันคือพระรูปเหมือน ผ้ายันต์ และแหวนรูปท่านเพื่อแจกในงานนั้น

          รูปหล่อหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก

          จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อแจกจ่ายในงานฉลองอายุครบ ๙๐ ปี มีลักษณะเป็นรูปหล่อปั๊มฐานเขียง มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียว โดยไม่มีการระบุจำนวนที่สร้าง

รูปหล่อหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

          ด้านหน้า  จำลองรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฎิรัดประคต ด้านล่างมีฐานเขียง ภายในฐานมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อกลึง ธมฺมโชโต"

          ด้านหลัง  มีเลขไทยเขียนว่า  "๒๕๐๔" ระบุปีที่สร้าง ใต้ฐานมีอักขระยันต์

          แหวนหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก

          จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อแจกจ่ายในงานฉลองอายุครบ ๙๐ ปี มีลักษณะเป็นแหวนปั๊มรูปอาร์ม มีการจัดสร้างด้วยเนื้ออัลปาก้าเพียงชนิดเดียว โดยไม่มีการระบุจำนวนที่สร้าง

แหวนหลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

          ด้านหน้า  จำลองรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฎิ ด้านข้างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อกลึง"

          ด้านหลัง  ท้องแหวนเรียบไม่มีอักขระยันต์ใดๆ

          ผ้ายันต์หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน รุ่นแรก

          จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อแจกจ่ายในงานฉลองอายุครบ ๙๐ ปี มีลักษณะเป็นผ้ายันต์สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีการจัดสร้างด้วยผ้าสีขาวเพียงชนิดเดียว โดยไม่มีการระบุจำนวนที่สร้าง

ผ้ายันต์หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้วอุทยาน ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

          ด้านหน้า  จำลองรูปหลวงพ่อนั่งปางสมาธิเต็มองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฎิ ด้านข้างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อกลึง"

          ด้านหลัง  ไม่มีอักขระยันต์ใดๆ

          วัตถุมงคลของหลวงพ่อกลึงนั้น มีผู้ใช้และมีประสบการณ์มากมาย ทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีคนถูกยิง ถูกแทงหลายรายล้วนแต่ไม่เข้าทั้งสิ้น เรื่องผ้ายันต์ของท่านก็มีประสบการณ์ คือลูกศิษย์ของท่านติดผ้ายันต์ไว้ที่ประตูเรือน ปรากฏว่ามีขโมย ๕-๖ คนขึ้นบ้าน พอมาถึงที่ประตู ก็หยุดและอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจหันกลับไปเสียเฉยๆ โดยที่เจ้าของบ้านแอบซุ่มดูอยู่ในบ้าน นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่เล่าขานกันต่อๆ มา.

โดย : สารานุกรม​พระเครื่อง​ลุ่ม​น้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง


***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น