ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง ราชบุรี ศิษย์เอกหลวงพ่อโห้ วัดนาหนอง

หลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง ราชบุรี

หลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง หรือ พระครูอินทคุณากร อดีตเจ้าอาวาสวัดนาหนอง ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นพระเกจิที่น่าเคารพอีกรูปหนึ่งของจะงหวัดราชบุรี

พระครูอินทคุณากร ท่านมีนามเดิม สุ่ม นามสกุล ยิ้มแย้ม พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านดอนกอก หมู่ที่ ๕ ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ ตรงกับวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ ในรัชกาลที่ ๕ โยมบิดาชื่อนายทอง ยิ้มแย้ม โยมมารดาชื่อนางธิดา ยิ้มแย้ม มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน ๖ คน ได้อแก่

๑. นางมอย

๒. นางหลวง

๓. นางจันทร์

๔. นางผิว

๕. นางหลุย

๖. ท่านพระครูอินทคุณากร (สุ่ม อินฺทสโร)

ปี พ.ศ. ๒๔๕๓ หลวงพ่อสุ่มมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดนาหนอง ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ เวลา ๑๓.๑๓ น. ได้รับฉายาว่า "อินฺทสโร" โดยมี

พระอธิการนิ่ม วัดหนามพุงดอ เป็นพระอุปัชฌาย์

เจ้าอธิการยอด วัดใหญ่อ่างทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระครูวิธานศาสนกิจ (โห้) วัดนาหนอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนาหนองเรื่อยมา เพื่อศึกษาวิชาอาคม บทสวดมนต์ พระธรรมวินัย และร่ำเรียนวิชาต่างๆ หลังจากหลวงพ่อโห้ จนสำเร็จวิชาต่างๆมากมาย

ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์

ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัดสุ่ม ฐานานุกรมท่านเจ้าคุณพระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี วัดสัตตนารถปริวัตร

ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ หลวงพ่อโห้ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบล เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ เล่ม ๕๗ หน้า ๒๔๓๓

โดยให้กับหลวงพ่อสุ่ม เป็นผู้ดูแล และหลวงพ่อโห้ท่านเองก็อยู่เป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาเพื่อจะได้เจริญวิปัสนาโดยปราศจากกิจของการเป็นสมภารเจ้าวัดดังที่ท่านตั้งใจไว้

ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงพ่อสุ่มได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนาหนองอย่างเป็นทางการ

หลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง ราชบุรี

วัดนาหนอง เป็นวัดราษฎร์สังกัด คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๓๘ บ้านนาหนอง หมู่ที่ ๒ ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๑ ไร่ ๒ งาน ๔๕ ตารางวา

วัดนาหนอง ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๐ แต่เดิมพื้นที่ตั้งวัดเป็นป่ารกไม่มีผู้คนอาศัย ชาวบ้านที่บ้านใหญ่อ่างทองจึงได้มีการอพยพมาจับจองที่ดินและตั้งหลักปักฐานทำกิน

จนเมื่อมีคนอพยพมามากขึ้นจึงกลายเป็นหมู่บ้านใหม่เรียกว่า บ้านนาหนอง โดยนายหล้า และนายตัน หัวหน้าหมู่บ้านจึงได้ชักชวนชาวบ้านให้สร้างวัด พร้อมทั้งอาราธนาหลวงพ่อมี จากวัดใหญ่อ่างทองมาช่วยกันก่อสร้างวัดและตั้งชื่อตามหมู่บ้าน

อาคารเสนาสนะที่สำคัญได้แก่ อุโบสถสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ ศาลาการเปรียญสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๔ หอสวดมนต์สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ กุฏิสงฆ์ ๔ หลัง เป็นอาคารไม้ ๑ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๓ หลัง ศาลาอเนกประสงค์สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒

ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์เก็บวัตถุของเก่าชาวไทยวน ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าพื้นบ้าน ปูชนียวัตถุที่สำคัญได้แก่ พระประธานในอุโบสถ พระพุทธชินราชจำลอง ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ มณฑปบนยอดเขาติดกับวัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑

วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๖ มีเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนามดังนี้

๑. พระมี พ.ศ. ๒๔๒๐ - ๒๔๔๗

๒. พระครูวิธานศาสนกิจ (โห้ ธมฺมสโร) พ.ศ. ๒๔๔๗ - ๒๔๘๓

๓. พระครูอินทคุณากร (สุ่ม อินฺทสโร) พ.ศ. ๒๔๘๔ - ๒๕๐๔

๔. พระอธิการยอด ฌาณโยโค พ.ศ. ๒๕๐๕ - ๒๕๑๙

๕. พระครูสิริคณาภรณ์ (อเนก รตนวณฺโณ) พ.ศ. ๒๕๑๐ - ปัจจุบัน

หลังได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อสุ่มได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ เช่นการปรับปรุงสระน้ำหน้าวัด โดยใช้หินประดับในบริเวณขอบสระ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

ในปีนั้นท่านได้ดําเนินการสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นใหม่ ๓ หลัง เป็นห้องแถวยาวในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นที่อยู่ของพระสงฆ์สามเณร สิ้นเงินค่าก่อสร้างประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาทเศษ (ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รื้อสร้างใหม่)

ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตําบลดอนแร่

ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่อมอุโบสถ โดยเฉพาะกรอบประตูหน้าต่าง เพราะของเดิมเป็นไม้ เปลี่ยนเป็นคอนกรีตทั้งหมด บานประตูหน้าต่างก็ทําการเปลี่ยนใหม่สิ้นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทเศษ

ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง ราชบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูอินทคุณากร เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๐๐ เล่ม ๗๔ ตอนที่ ๑๐๗

ในปีนั้น ท่านได้ดำเนินการสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้น ๑ หลัง เป็นตึก ๒ ชั้น (ตึกอินทศิริ ประชาสรรค์) ขณะก่อสร้างสิ้นเงินไป ๙๐๐,๐๐๐ บาทเศษ แต่ยังไม่สําเร็จท่านก็ถึงแก่มรณภาพลงเสียก่อน

ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้ชักชวนประชาชนตัดถนนจากหน้าวัดไปบรรจบถนนสายดอนแร่-อ่างทอง ซึ่งเป็นทางสัญจรไปมาจนถึงทุกวันนี้

หลวงพ่อสุ่ม ท่านได้เจริญรอยตามท่านพระครูวิธานศาสนกิจอาจารย์ของท่าน ได้สร้างวัดตามสติกำลังความสามารถ คือ

การส่งเสริมการศึกษา เมื่อมีพระภิกษุสามเณรที่บวชเข้ามาทุกรูปต้องศึกษา พระธรรมวินัย เอาใจใส่ในกิจวัตร เช่นทำวัตรเช้า-เย็น เป็นต้น

ในสมัยที่ท่านปกครองอยู่ มีพระภิกษุสามเณรสมัครสอบนักธรรมในสนามหลวงปีหนึ่งเป็นจำนวนมากรูป และก็สอบได้ในปีหนึ่งๆ มากรูปเช่นกัน และมีสัทธิวิหาริกของท่าน สอบเปรียญธรรมได้ถึง ๓ รูป รวมทั้งสัทธิวิหาริกรูปแรกของท่านด้วย คือ พระมหาสวัสดิ์ สิริวณฺโณ (มณีจันทร์)

ท่านถือเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ในสิกขาบทน้อยใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์ที่ทําการบรรพชาอุปสมบทมีสัทธิวิหาริก อันเตวาสิกจํานวนมาก

หลวงพ่อสุ่มปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคโรคปอด เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔ เวลา ๐๖.๐๒ น. นับรวมสิริอายุได้ ๗๐ ปี ๕๐ พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง

เหรียญหลวงพ่อสุ่ม วัดนาหนอง รุ่นแรก

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มเสมาแบบมีหูในตัว เหรียญได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อโห้ มีสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทองเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้