ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อไพบูลย์ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) เทพเจ้าของชาวกาญจนบุรี

หลวงพ่อไพบูลย์ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม กาญจนบุรี

หลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้ หรือ พระธรรมคุณาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

หลวงพ่อไพบูลย์ ท่านมีนามเดิม ไพบูลย์ กลีบทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ โยมบิดาชื่อนายหน่วง กลีบทอง โยมมารดาชื่อนางน้ำเตียน กลีบทอง โดยท่านเป็นบุตรคนที่ ๖ ของครอบครัว

ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ หลวงพ่อไพบูลย์ ท่านมีอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดสาลวนาราม (วัดดอนตาเพชร) ตำบลพนมทวน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ ตรงกับวันแรม ๔ ค่ำเดือน ๕ ได้รับฉายาว่า "กตปุญฺโญ" โดยมี

พระปลัดซ้ง อินฺทสาโร วัดดอนตาเพชร เป็นพระอุปัชฌาย์

พระครูพนมคุณาธาร (ณรงค์) วัดห้วยสะพาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระครูสังขละบุรารักษ์ (เพิ่ม) เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดดอนตาเพชรเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและภาษาบาลีขอมกับพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อซ้ง วัดดอนตาเพชร กาญจนบุรี พระอาจารย์ของหลวงพ่อไพบูลย์

ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดสาลวนาราม (วัดดอนตาเพชร)

ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านได้ย้ายไปจำวัดที่วัดปากน้ำ เพื่อศึกษาวิชาธรรมกายจากหลวงพ่อสด และมีหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง

ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงพ่อไพบูลย์ ท่านได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดใต้ และได้เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดใต้

ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ พระอธิการก้านได้มรณภาพลง ชาวบ้านและคณะสงฆ์จึงยกให้หลวงพ่อไพบูลย์รักษาการเจ้าอาวาสวัด

ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ หลังจากที่หลวงพ่อไพบูลย์รักษาการเจ้าอาวาสวัดได้ ๑ ปี คณะสงฆ์จึงมีมติแต่งตั้งให้หลวงพ่อไพบูลย์ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๔๔ ไร่ ๒ งาน ๘๑ ตารางวา

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วัดใต้ เพราะวัดอยู่ทางใต้ของกำแพงเมือง ตามเรื่องเล่าจากผู้สูงอายุเล่าว่า พระยาตาแดงเป็นผู้สร้าง แต่จะเป็นการสร้างขึ้นใหม่ หรือซ่อมแซมบูรณะต่อเติมจากของเดิมซึ่งมีอยู่มาก่อนแล้วก็ได้ เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ยังหาหลักฐานไม่ได้

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๘ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๔

ภายในวัดมีพระเจดีย์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้พระอุโบสถหลังเก่า กรมศิลปากรได้จัดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ ตามประกาศครั้งที่ ๑ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ ลงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๘

ในสมัยโบราณกองทัพไทยได้เคยชุมพลเหล่าทหารที่ทะแกล้วร่วมพิธีตั้งศาลเพียงตาบวงสรวงเทพารักษ์ทางไสยศาสตร์ ก่อนที่จะออกไปรบประจันกับเหล่าศัตรู

โดยชุมชุมร่วมพิธีกัน ณ ตรงที่ตั้งพระเจดีย์องค์นี้ และได้สร้างเจดีย์นี้เพื่อเป็นนิมิตฉลองชัย ชื่อ ไชยชุมพล แสดงว่าพระเจดีย์นี้สร้างขึ้นในที่ชุมพล ต่อมาขนานนามวัดให้เหมาะสมตามชัยนิมิตนี้

อาคารเสนาสนะทีสำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถหลังเก่า สร้างประมาณปี พ.ศ. ๒๓๗๐ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เช่น ภาพพรหมลูกฟัก ภาพเทวดา ภาพพระราหูอมจันทร์ และผนังด้านข้างเขียนภาพประวัติขุนแผนย่างกุมารทอง ตามบทประพันธ์เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน

พระอุโบสถหลังใหม่ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลังคา ๓ ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ทำพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๗

ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาแลงปางตรัสรู้ ขนาดหน้าตัดกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ สูง ๕ ศอก ๑ คืบ สร้างสมัยทวารวดี และศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๖๐ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลังคา ๓ ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้า ใบระกา ภายในเขียนภาพจิตรกรรม วัดมีรายนามเจ้าอาวาสดังนี้

๑. พระอธิการสวด

๒. พระอธิการเกด

๓. พระอธิการคง

๔. พระครูวิสุทธิรังสี (ช้าง)

๕. พระวิสุทธิรังสี (หลวงปู่เปลี่ยน อินฺทสโร)

๖. พระปลัดจู จนฺทโชติ

๗. พระครูวัตตสารโสภณ (พระอาจารย์ก้าน)

๘. พระธรรมคุณาภรณ์(ไพบูลย์ กตปุญฺโญ)

๙. พระเทพปริยัติโสภณ(ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ พธ.บ. M.A)

หลังจากที่หลวงพ่อไพบูลย์ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวิสุทธิรังษี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒

ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นผู้ดำเนินการให้มีโรงเรียนการศึกษาผู้ใหญ่สำหรับคฤหัสถ์ที่โรงเรียนวิสุทธรังษี และโรงเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงคราม รวมทั้งยังได้จัดตั้งโครงการอบรมศาสนศึกษาภาคฤดูร้อนแก่เยาวชน เริ่มจัดตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดไชยชุมพลชนะสงคราม เป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการอบรมพระภิกษุสามเณรก่อนเข้าสอบธรรมสนามหลวง

ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปัญญาสุธี ตรีปิฎกวิภูสิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖

ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ตั้งมูลนิธิวัดไชยชุมพลชนะสงคราม

ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ วัดไชยชุมพลชนะสงครามได้รับการยกฐานะเป็นวัดหลวงชนิดสามัญ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑

ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพปัญญาสุธี ศรีสิงคีวิสุทธิดิลก ตรีปิฎกวิภูษิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖

ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ท่านได้สร้างตึกพยาบาลและตึกพยาบาลพิเศษให้โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา

ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ซื้อบ้านและที่ดินประมาณ ๒ ไร่ เพื่อจัดสร้างวัดไทยนครเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย และเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างโบสถ์วัดหลุมหิน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ บูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดไชยชุมพลชนะสงคราม

ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ซื้อที่ดินประมาณ ๗ ไร่ ที่นครบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อจัดสร้างวัดไทยนครบริสเบน และเป็นผู้อำนวยการสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ ข้ามแม่น้ำแม่กลองที่บ้านพงตึก ณ วัดดงสักอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นผู้อำนวยการสร้างสะพานหนองบัว ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ณ ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นผู้อำนวยการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ณ วัดทุ่งลาดหญ้า ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับพระครูกาญจโนปมคุณ (หลวงพ่อลำใย)

ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ สร้างหอวัฒนธรรมให้โรงเรียนวิสุทธรังษีโรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นผู้อำนวยการและจัดหาเงิน ดำเนินการสร้างโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ โรงพยาบาลประจำอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมคุณาภรณ์ สุนทรศีลาจาร วิธานหิตานุกิจดิลก ตรีปิฎกวิภูษิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๓

ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ - ๓๘ ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ กุฎีสงฆ์กุฎีปฏิบัติธรรม โรงครัว ให้วัดบ้องตี้พูลผลาราม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ดำเนินการสร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดห้วยสะพาน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ดำเนินการสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านหลุมหิน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ดำเนินการสร้างอาคารอำนวยการ วิทยาลัยการอาชีพพนมทวน

ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ -๔๓ ดำเนินการสร้างอาคารเรียนโรงเรียนบ้านบ้องตี้ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และดำเนินการก่อสร้างอุโบสถวัดทุ่งมะสัง ตำบลหนองกุ่มอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ -๔๕ ดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านอุโลกสี่หมื่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านดอนมะขาม อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านตลุงใต้ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี และกำลังดำเนินการก่อสร้าง "อาคาร ๗๒ ปีเจ้าคุณไพบูลย์" ให้กับโรงเรียนอนุบาลวัดไชยชุมพลชนะสงคราม อำเภอเมืองกาญจนบุรี

หลวงพ่อไพบูลย์ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ขณะเดินทางไปบำเพ็ญศาสนกิจ ณ ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ นับรวมสิริอายุได้ ๗๒ ปี ๕๒ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้

รูปหล่อกริ่งชัยมงคลหลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้ รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เพื่อแจกในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นรูปหล่อปั๊มลอยองค์ มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลืองเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปหล่อหลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้ กาญจนบุรี รุ่นแรก 2510 ทองเหลือง

รูปหล่อกริ่งชัยมงคลหลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้ กาญจนบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เนื้อทองเหลือง

ด้านหน้า มีรูปหลวงพ่อไพบูลย์นั่งสมาธิเต็มองค์บนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคต ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อวัดใต้"

ด้านหลัง มีอักขระยันต์ที่สังฆาฏิอ่านได้ว่า "อุ มะ อะ" ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "กริ่งชัยชุมพล"

เหรียญหลวงพ่อไพบูลย์ วัดใต้ รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เพื่อแจกในงานฉลองสมณศักดิ์ของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้