โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว ราชบุรี เจ้าของเหรียญหมูตาม-หมูขวาง อันโด่งดัง

หลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว ราชบุรี

          หลวงพ่อสุรินทร์ (สันตจิตโต) วัดลาดบัวขาว ท่านมีนามเดิมว่า "จุก" เกิดเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๗ ณ บ้านตำบลท่าเสา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบุตรคนเดียวของนางทรัพย์ นาคฤทธิ์ (ไม่ปรากฏชื่อโยมบิดา)

          เมื่อเจริญวัยพอสมควร โยมมารดาของท่านได้ส่งไปเรียนอยู่ที่สำนักวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ โดยอาศัยกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงลุง ในปลายสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งในสถานที่นี้เองทำให้ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านต่างๆ ทั้งภาษาบาลี และภาษาขอมจนเขี่ยวชาญ และเมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วจึงเดินทางกลับมา ช่วยงานที่บ้านเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว

          จนเมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๗ หลวงพ่อสุรินทร์ มีอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดรางวาลย์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ได้รับฉายา "สันตจิตโต" โดยมี

          พระครูโยคาภิรมย์ (ชื่น ชินอักษร) วัดบ้านโป่ง เป็นพระอุปัชฌาย์
          พระอธิการสิน วัดรางวาลย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
          พระหนุน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

          เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมชั้นโท นอกจากนี้ ยังศึกษาทางด้านวิทยาคม โหราศาสตร์ แพทย์แผนปัจจุบันและแผนโบราณ จนมีความเชี่ยวชาญ สามารถนำความรู้มาช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านจนเป็นที่เคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก

          เมื่อหลวงพ่อสุรินทร์ อุปสมบทพอมีพรรษาและความรู้พอสมควร จึงได้รับนิมนต์มาเป็นพระครูสอนปริยัติที่วัดโกสินารายณ์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ระยะหนึ่ง

          ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ หลวงพ่อสุรินทร์ ได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดลาดบัวขาว ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่า "วัดท่าวัว" ซึ่งเป็นวัดที่ยังไม่เจริญ ตั้งแต่สร้างมาก็ยังไม่มีเจ้าอาวาสเลย มีแต่ผู้รักษาการเจ้าอาวาสสมัยหนึ่งๆ เท่านั้น

          หลวงพ่อสุรินทร์ เมื่อดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดลาดบัวขาวมาพอสมควรแล้ว จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลลาดบัวขาว และได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาอีกจนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรีในราชทินนาม "พระครูวิจิตรสารคุณ"

          ในสมัยที่หลวงพ่อสุรินทร์ ท่านรับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดลาดบัวขาว ได้เปิดสอนปริยัติธรรม แผนกธรรม และได้ให้การร่วมมือกับทางราชการ โดยการให้ใช้ศาลาการเปรียญและที่ดินของวัด ให้ที่เรียนของเด็กๆ และเป็นที่ตั้งโรงเรียนประชาบาลจวบจนถึงทุกวันนี้

หนังสืองานพระราชทานเพลงิศพ หลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว ราชบุรี

          หลังจากนั้นได้เริ่ม สร้างอุโบสถ สร้างกุฏิ ซึ่งเป็นอาคารตึกชั้นเดียว ๔ หลัง (ปัจจุบันเหลือ ๓ หลัง) สร้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สร้างศาลาการเปรียญ แต่ยังไม่เสร็จท่านก็มรณภาพ

          คณะศิษย์และคณะกรรมการวัดได้ช่วยกันสร้างต่อจนสำเร็จ ท่านได้เทศน์ สั่งสอนชาวบ้านและชาววัดใกล้เคียงจนเป็นที่เลื่องลือ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนใกล้เคียงทั่วไป แม้ขณะที่ท่านกำลังป่วยอยู่ยังไปเทศน์อบรมสั่งสอนจนใกล้มรณภาพ คือก่อนหน้าที่ท่านจะมรณะสองสามวันยังไปเทศน์อบรมประชาชน โดยที่อาการเจ็บป่วยไม่ได้ทำให้ท่านท้อถอยแม้แต่น้อย

          หลวงพ่อสุรินทร์ หรือ พระครูวิจิตรสารคุณ ได้มาพัฒนาให้วัดนี้เจริญเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ มีอุโบสถ กุฏิ ศาลา ซึ่งใช้ในการบำเพ็ญศาสนกิจ ในพุทธศาสนาในถิ่นนี้ครบแทบทุกอย่าง จนกระทั่งตัวท่านเองป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ขากรรไกร ขณะที่ท่านป่วยอยู่นั้น ท่านที่เคารพและศิษย์ยานุศิษย์จะพาท่านไปให้แพทย์รักษา ท่านก็บอกว่า "จะขอสร้างศาลาให้เสร็จเสียก่อน แล้วจึงจะไป" คำพูดของท่านประโยคนี้ เป็นที่ซาบซึ้งแก่บรรดาผู้ที่เคารพและบรรดาศิษย์ยานุศิษย์เป็นอันมาก

           หลวงพ่อสุรินทร์ มรณะภาพลงด้วยโรคมะเร็งที่ขากรรไกร ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ สิริอายุได้ ๖๒ ปี ๔๑ พรรษา

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุรินทร์

          เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์หมูขวาง

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ แบบมีหูในตัว สร้างขึ้นด้วยเนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่าน มีประสบการณ์มากมาย จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พิมพ์หมูขวาง

          ด้านหน้า มีรูปหลวงพ่อสุรินทร์ครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิจิตรสารคุณ สุรินทร์ สนฺตจิตโต"

          ด้านหลัง มียันต์หมูมีเขี้ยว ใต้ยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดลาดบัวขาว ๒๕๑๒"

          เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์หมูตาม

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ แบบมีหูในตัว สร้างขึ้นด้วยเนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยบางเหรียญจะนำไปทำกระไหล่ทั้ง (ทอง เงิน นาค ตัดห่วงแจกกรรมการ) ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่าน มีประสบการณ์มากมาย จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พิมพ์หมูตาม

          ด้านหน้า มีรูปหลวงพ่อสุรินทร์ครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิจิตรสารคุณ (สุรินทร์ สนฺตจิตโต) วัดลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 2512"

          ด้านหลัง มียันต์หมู

          เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์ยันต์ห้า

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ แบบมีหูในตัว สร้างขึ้นด้วยเนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่าน มีประสบการณ์มากมาย จัดเป็นพิมพ์ที่มีการสร้างน้อยหายาก จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พิมพ์ยันต์ห้า

          ด้านหน้า มีรูปหลวงพ่อสุรินทร์ครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิจิตรสารคุณ (สุรินทร์ สนฺตจิตโต) วัดลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 2512"

          ด้านหลัง มียันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ใต้ยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดลาดบัวขาว ๒๕๑๒"

          สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์ก้างปลา

          สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๒  ลักษณะเหมือนพระสมเด็จ  โดยพระสมเด็จของท่านจัดได้ว่ามีน้อยหายาก เล่ากันว่าท่านแจกให้กับพวกลูกศิษย์ที่มาจากกรุงเทพฯซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากชาวบ้านเองถือว่าอาจารย์สุรินทร์ยังอยู่ก็เลยไม่ได้สนใจจะเก็บเอาไว้เท่าไหร่ โดยเป็นพระที่ท่านจะลบผงเองทั้งหมด จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ พิมพ์ก้างปลา

          ด้านหน้า เป็นพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้น องค์พระวางแขนแบบหักศอกโดยซุ้มระฆังขององค์พระดูสอบแหลม แต่มีเอกลักษณ

          ด้านหลัง เรียบ สามารถมองเห็นมวลสารได้อย่างชัดเจน

          สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์ต้อซุ้มแหลม

          สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๒  ลักษณะเหมือนพระสมเด็จทั่วไป โดยพระสมเด็จของท่านจัดได้ว่ามีน้อยหายาก เล่ากันว่าในสมัยนั้นท่านแจกให้กับพวกลูกศิษย์ที่มาจากกรุงเทพซะเป็นส่วนใหญ่ โดยพระพิมพ์นี้ตกอยู่ในพื้นที่น้อยมาก เนื่องจากชาวบ้านเองถือว่าอาจารย์สุรินทร์ยังอยู่ก็เลยไม่ได้สนใจจะเก็บเอาไว้เท่าไหร่ โดยท่านจะลบผงเองทั้งหมด จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ พิมพ์ต้อซุ้มแหลม

          ด้านหน้า เป็นพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้น องค์พระอวบอิ่มวางแขนแบบหักศอกโดยซุ้มระฆังขององค์พระด้านบนแหลมและบางกว่า แต่มีเอกลักษณ์

          ด้านหลัง เรียบ สามารถมองเห็นมวลสารได้อย่างชัดเจน

          สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก พิมพ์ฐานสำเภา

          สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๒  ลักษณะเหมือนพระสมเด็จทั่วไป โดยพระสมเด็จของท่านจัดได้ว่ามีน้อยหายาก เป็นอีกพิมพ์หนึ่งที่เล่ากันว่าท่านแจกให้กับพวกลูกศิษย์ที่มาจากกรุงเทพซะเป็นส่วนใหญ่ พระพิมพ์นี้ตกอยู่ในพื้นที่น้อยมาก เนื่องจากชาวบ้านเองถือว่าอาจารย์สุรินทร์ยังอยู่ก็เลยไม่ได้สนใจจะเก็บเอาไว้เท่าไหร่ โดยท่านจะลบผงเองทั้งหมด จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

สมเด็จหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ พิมพ์ฐานสำเภา

          ด้านหน้า เป็นพระพิมพ์ประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานโค้งคล้ายเรือสำเภา องค์พระไม่มีเส้นซุ้มระฆัง มีเอกลักษณ์จดจำได้ง่าย

          ด้านหลัง เรียบ สามารถมองเห็นมวลสารได้อย่างชัดเจน

          พระลีลาทุ่งเหยียบดอก หลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว

          เป็นพระเนื้อดินที่หลวงพ่อสุรินทร์ ท่านไปเปิดกรุที่สุโขทัย และนำกลับมาแจกให้กับชาวบ้านในระแวกวัด และภายหลังได้มีการสร้างเพิ่มเติม พุทธคุณเป็นที่เลื่อลือในสงครามเวียตนาม จำนวนการสร้างไม่มีการจดบันทึกไว้

พระลีลาทุ่งเหยียบดอก หลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว

          ด้านหน้า เป็นพระพุทธปางลีลา มีเอกลักษณ์จดจำได้ง่าย

          ด้านหลัง มีรอ่งรอยการกดพิมพ์ที่เป็นะรรมชาติ ไม่มีอักขระใดๆ 

          ผ้ายันต์กันไฟหลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว

          เป็นผ้ายันต์ที่หลวงพ่อสร้างไว้เพื่อแจกให้กับชาวบ้าน ไว้สำหรับกันไฟไหม้ จัดเป็นของหายากอีกอย่างของหลวงพ่อ สมัยก่อนผู้ที่ได้รับแจกไปจะนำไปติดกับเสาบ้าน ซึ่งนานวันเข้าก็เปื่อยผุพังไป ทำให้หายากแล้วในปัจจุบัน จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

ผ้ายันต์กันไฟ หลวงพ่อสุรินทร์ วัดลาดบัวขาว

          ด้านหน้า เป็นรูปยันต์ธง สำหรับกันไฟใต้ยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี"

          ด้านหลัง เรียบบางผืนมีจารดินสอ

          พุทธคุณของวัตถุมงคลของหลวงพ่อสุรินทร์ ถือว่าครบเครื่องทั้งโชคลาภและมหาอุตคงกระพัน ในสมัยก่อนคนนิยมไปให้หลวงพ่อสักยันต์หมูไฟกันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อถือได้ในเรื่องของความเหนียวยิงฟันไม่เข้า 

          เล่ากันว่าคนที่สักยันต์ไปบางคนชอบกินเหล้า พอของขึ้นก็เตลิดวิ่งเข้ารกเข้าพงไป พอได้สติปรากฏว่าเข้าไปอยู่ในดงหนามไผ่เสียแล้ว ชาวบ้านต้องเข้าไปช่วยกันตัดหนามไผ่ถึงจะเอาตัวออกมาได้ แต่ที่แปลกคือร่างกายกลับไม่มีรอยขีดข่วนจากหนามไผ่เลยแม้แต่น้อย.


โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง



***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

7 ความคิดเห็น:

  1. หลวงพ่อท่านเก่งจริงครับ ผมเอก ลาดบัว(เอก วัดมารฯ)ยืนยัน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ท่านมีชื่อเสียงมานานครับ ไม่ธรรมดา

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 ก.ย. 2565 22:41:00

    ผมแขวนสมเด็จก้างปลากับเหรียญหมูขวางของดีจริงท่านเก่งจริงครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สมเด็จท่านหายากแล้วครับ สุดยอด

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ21 ม.ค. 2566 16:05:00

      ไม่แบ่งกันเลย

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ21 ก.พ. 2566 13:23:00

    จริงเลยครับ หมูไฟ เสือหัวผู้หญิง กับหมุมาน8กร ที่ลุงผมได้ยันสักมากับมือหลวงพ่อสุรินทร์ ด้วยเข็มคู่หัวโบราญ เหล้าเขาปากของก้ขึ้นทุกครั้ง วิ่งเขาป่าฝ่าหนามไผ่ืพวกแม่ผมไปหากันหาไม่เจอ มาเจอเอารุ่งเช้าก็พากันงง ตามๆกัน ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนใดๆเลย ลุงผมแก ประสบการณ์เยอะมากครับ สมัยช่วงวัยรุ่น18-20 ไปปล้นปืนที่ค่ายลาดหญ้า กาญจนบุรี ซึงมีเพื่อนไปร่วมด้วยครั้งนั้น โดน นายทหารเวรเข้ารักษาความปลอดภัยของค่ายนั้น เพื่อนแกที่ไปด้วยโดนยิงตายทันทีขณะที่ 2คน ลุงผมเป็น1ใน3ที่ที่ถูกยิงด้วยแล้วล้มฟุบลงไปแต่รอดมา ลุงผมบอกว่าเขาตายไปแล้ว แต่มีภาพในหัวรอยขึ้น เป็นหลวงปู่สุรินทร์นี่แหละครับที่บอกแกว่า (กูสั่งกูสอนหรือให้มึงมาทำแบบนี้ ) แล้วภาพก็หายไปลุงผมก็สดุ้งตื่น แล้วก็ลุกวิ่ง ไปนอนหลบในป่าอีก2คืนและได้เดินเท้า เข้าไปในเมืองขึ้นรถกลับมาบ้าน ลาดบัวขาว มาเล่าให้พี่น้องที่บ้านฟัง จากเหตุครั้งนั้น ก้มีการเล่าปากต่อปากกันมาของเรื่องความขลัง ของยันต์ และเครื่องรางของท่าน แล้วยังมีคตด้วงเหล็ก ที่ท่านขุดเจอ(ไม่ทราบสถานที่)ให้ลุงผมติดตัวมา แล้วลุงผมก็ให้ผมมาติดตัวอยุ่ตอนนี้ลุงบอกลุงเก็บไว้ติดตัวอยุ่กับลุงตลอด 48-50ปี อยู่ๆลุงผมก้ให้ผมมา ทั้งๆที่แกก็มีลูกชายลูกสาว ห้ามผมไม่ให้บอกคนในบ้านแกอีก😄

    ตอบลบ

ค้นหาบล็อกนี้