ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อเบี้ยว วัดตะโหนดราย
![]() |
| หลวงพ่อเบี้ยว วัดตะโหนดราย สมุทรสงคราม |
หลวงพ่อเบี้ยว (พรหมสโร) วัดตะโหนดราย จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่าของเมืองแม่กลอง ที่ไม่มีการจดบันทึกหลักฐานใดๆ มีเพียงภาพถ่ายของท่านที่ยังตกทอดมาถึงคนรุ่นหลัง ให้ได้ศึกษาค้นคว้ากันเพียงเท่านั้น
หลังจากที่หลวงปู่พันธ์ หรือ พระครูสมุห์พันธ์ เจ้าอาวาสวัดตะโหนดราย(รูปที่ ๓) ได้มรณภาพลง ชาวบ้านและคณะสงฆ์จึงพร้อมใจกันนิมนต์หลวงพ่อเบี้ยวขึ้นเป็นเจ้าอาวาสทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดตะโหนดราย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๒๔ หมู่ที่ ๑ ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๒ ไร่
วัดตะโหนดราย ได้ขอตั้งเป็นวัดเมื่อปี
พ.ศ. ๒๓๓๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๑
แต่เดิมเป็นสวนต้นตาลโตนดเรียงรายอยู่หลายต้นจึงได้ชื่อว่า "วัดตะโหนดราย"
ต่อมามีนายปาน และนางแป้ง ได้ช่วยสร้างอุโบสถให้ ๑ หลัง และกุฏิสงฆ์อีก ๕ หลัง ซึ่งปัจจุบันนี้ทรุดโทรมไปหมดแล้ว
ยังมรผู้มีจิตศรัทธาอีก ๑ ท่าน ไม่ทราบชื่อ ทราบแต่ว่าตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ถวายที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ ๑ แปลง เนื้อที่ ๑๒ ไร่
และได้ซ่อมสร้างปฏิสังขรณ์ใหม่ ต่อมานางลำภู รุ่งเจริญ ได้ถวายที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัด ๑ แปลง ขนาดเนื้อที่ ๑๒ ไร่ และ เป็นผู้มีศรัทธาอุปถัมภ์วัดด้วยดีเสมอมา
ต่อมาท่านกำนันกรึง รุ่งเจริญ และนางเม้ย รุ่งเจริญ ผู้เป็นภรรยาได้เป็นผู้นำประชาชนร่วมจัดหาทุนสร้างอาคารเรียนขึ้น ๑ หลัง ให้ชื่อว่า โรงเรียนศึกษารุ่งเจริญ วัดตะโหนดราย
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ วัดมีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนามคือ
๑. พระอธิการเทศ
๒. พระอธิการกลิ่น
๓. พระอธิการพัน
๔. พระครูเบี้ยว (พรหมสโร)
๕. พระสมุห์เท ฉนฺโน
๖. พระครูสมุทรประภากร (เฉลิม ปภงฺกโร)
๗. พระครูสมุทรปริยัตยาภรณ์ (นพพล กนฺตสีโล)
![]() |
| หลวงปู่พันธ์ หรือ พระครูสมุห์พันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตะโหนดราย สมุทรสงคราม |
หลังจากที่หลวงพ่อเบี้ยวได้เป็นเจ้าอาวาสวัดตะโหนดราย ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ดังนี้
๑. สร้างกุฏิ ๑๑ ห้อง ๑ แถว กว้าง ๓ เมตร ยาว ๓๓ เมตร
๒. สร้างหอฉัน ๑ หลัง กว้าง ๓ เมตร ยาว ๒๑ เมตร โดยพระอยู่ กิตฺติวณฺโณ วัดโตนดรายเป็นผู้บริจาคทรัพย์
๓. สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้น ๑ หลัง เป็นอาคารเรียนเรือนปันหยา ๒ ชั้น มีมุขหน้าอยู่กลาง กำนันกริ่ง นางเม้ย รุ่งเจริญ เป็นผู้บริจาคทรัพย์ ตั้งชื่อว่า "โรงเรียนศึกษารุ่งเจริญ"
๔. เป็นหัวหน้าชักชวนทายกทายิกาซื้อที่ ๑ แปลง เนื้อที่ ๔ ไร่ ๓ งาน ๘๐ วา
๕. สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้น ๑ หลัง เป็นอาคารเรียน ๒ ชั้น แบบ ป.๒ พิเศษ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๗ เมตร ตั้งชื่อว่า "โรงเรียนพรหมสวัสดิ์สาทร" ปัจจุบันคือโรงเรียนวัดตะโหนดราย(พรหมสวัสดิ์สาทร) ขึ้น
๖. สร้างศาลาพักร้อน หลังพระอุโบสถ ๒ หลัง กว้าง ๓ เมตร ยาว ๗ เมตร นายหลิ่ง ฉ่ำบุญรอด นายสน รอดรัศมี เป็นผู้บริจาคทรัพย์
๗. สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง กว้าง ๕ เมตร ยาว ๕.๕ เมตร
๘. สร้างสะพานข้ามคลองบางใหญ่ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๒ เมตร ยาว ๑๘ เมตร ให้ชื่อว่า "สะพานราษฏร์บำรุง"
ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ ท่านได้เปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้น ตั้งชื่อว่า "โรงเรียนพรหมสวัสดิ์สาทร" ปัจจุบันคือโรงเรียนวัดตะโหนดราย(พรหมสวัสดิ์สาทร) มีนายบัว สิทธิสวัสดิ์ เป็นครูใหญ่คนแรก
ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ท่านได้เปิดโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกธรรม ขึ้นโดยหลวงพ่อเบี้ยว เป็นเจ้าสำนักเรียน มีครูสอน ๖ รูป คือ พระปอย พระจันทร์ พระชม พระส่วน พระน้อม จันทฺเวโท และพระสำราญ อคฺคปุญโญ
หลวงพ่อเบี้ยว ปกครองวัดจนถึงแก่มรณภาพลงในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ประวัติของท่านมีจดบันทึกไว้น้อยมาก.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อเบี้ยว วัดตะโหนดราย
เหรียญหลวงพ่อเบี้ยว วัดตะโหนดราย รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ โดยหลวงพ่อเทเจ้าอาวาสรูปถัดมา เพื่อเป็นที่ระลึกในงานศพของหลวงพ่อเบี้ยว โดยเหรียญรุ่นนี้ได้หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลมเป็นผู้ปลุกเสก ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างขึ้นด้วยเนื้อทองแดง และเนื้ออัลปาก้า จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
| เหรียญหลวงพ่อเบี้ยว วัดโตนดลาย สมุทรสงคราม ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ เนื้อทองแดง |
![]() |
| เหรียญหลวงพ่อเบี้ยว วัดโตนดลาย สมุทรสงคราม ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ เนื้ออัลปาก้า |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อเบี้ยว นั่งเต็มองค์มือทั้ง ๒ ข้างจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อนั่งบนอาสนะสวยงาม มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานศพ พระครู(พรหมสโร)"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์เกราะเพชรอยู่กลางเหรียญ และไม่ปรากฏอักขระภาษาไทยใดๆ
ภาพ: หลวงพ่อพันธ์ จากหลวงพี่ เลขาฯ วัดตะโหนดราย กลุ่มสารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง
บทความที่เกี่ยวข้อง




ไม่มีความคิดเห็น