ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อพูน วัดโพงพาง สมุทรสงคราม

หลวงพ่อพูน วัดโพงพาง สมุทรสงคราม

หลวงพ่อพูน วัดโพงพาง หรือ พระอธิการพูล กตสาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดโพงพาง ตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

ท่านเป็นพระที่มีประวัติให้สืบค้นน้อยมาก ทราบเพียงว่าท่านเกิดปี พ.ศ. ๒๔๕๘ โดยไม่ปรากฏชื่อโยมบิดาและโยมมารดาของท่าน

ท่านบวชเรียนอยู่ที่วัดโพงพาง ตำบลบางขันแตก (เดิมเป็นตำบลโพงพาง เพิ่งมารวมเป็นตำบลเดียวกับตำบลบางขันแตกภายหลัง) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ หลวงพ่อพูนมีอายุได้ ๒๕ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดโพงพาง ตำบลบางขันแตก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับฉายาว่า "กตสาโร" โดยมี

หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลวงพ่อบุญรอด วัดบางขันแตก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดโพงพางเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและบทสวดมนต์ต่างๆ จนสามารถสอบได้นักธรรมตรี ณ สำนักวัดบางขันแตก

ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ พระอธิการอุ่นได้มรณภาพลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันให้หลวงพ่อพูนรักษาการเจ้าอาวาส

ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ หลังจากที่หลวงพ่อพูนรักษาการเจ้าอาวาสได้ ๑ ปี ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

วัดโพงพาง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งในตำบลบางขันแตก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๙ ไร่

วัดโพงพาง แต่เดิมตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำแม่กลอง แต่ถูกน้ำเซาะตลิ่งพังลงน้ำไป จึงได้อพยพรื้อถอนมารวมกับวัดที่อยู่ใกล้เคียง ชื่อว่า "วัดขี้เหล็กบันไดทอง" หรือ "วัดใน"

ส่วนวัดโพงพางเดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดนอก แต่เมื่อรวมเป็นวัดเดียวกันแล้ว ชาวบ้านยังนิยมเรียกชื่อเดิม "วัดโพงพาง" ทำให้ชื่อวัดขี้เหล็กบันไดทองนั้นหายไป

วัดโพงพาง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ครั้นมีภัยจากศึกสงครามก็รกร้างร่วงโรยไป โดยเป็นวัดขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๘ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๐ วัดมีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดดังนี้

๑. พระอธิการกล่ำ

๒. พระอธิการหมอน

๓. พระอธิการเทียน พ.ศ. ๒๔๕๑ - ๒๔๕๙

๔. พระอธิการหวัง พ.ศ. ๒๔๕๙ - ๒๔๖๐

๕. พระอธิการอั๋น พ.ศ. ๒๔๖๐ - ๒๔๖๓

๖. พระสร พ.ศ. ๒๔๖๓ - ๒๔๖๗ (รักษาการ)

๗. พระอธิการหนู พ.ศ. ๒๔๖๗ - ๒๔๗๐

๘. พระอธิการน้อย พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๘๑ (ลาสิกขา)

๙. พระอธิการอุ่น พ.ศ. ๒๔๘๒ - ๒๔๘๗ (นิมนต์มาจากวัดสระบัว เพชรบุรี)

๑๐. หลวงพ่อพูน กตฺตสาโร พ.ศ. ๒๔๘๗ - ๒๕๑๔

๑๑ พระครูสมุทรจารุวัฒน์ พ.ศ. ๒๕๑๔ - ๒๕๔๕

๑๒. พระครูโอภาสสมุทรวงศ์ (สมาน จนฺทวโส) พ.ศ. ๒๕๔๕ - ปัจจุบัน

หลังจากที่หลวงพ่อพูนได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ทำฝาศาลาการเปรียญใหม่

ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ รื้อสะพานข้ามคอลงโพงพางเพราะตัวไม้ชำรุดผุพังมาก แล้วสร้างใหม่

ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ รื้อถอนกุฏิทางด้านเหนือของวัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระอธิการหนูมารวมและซ่อมแซ่มขึ้นใหม่ ดังที่เห็นในปัจจุบัน

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างส้วนใหม่ ๑ หลัง ๔ ห้อง

ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ สร้างถนนคอนกรีต ต่อไปทางแม่น้ำแม่กลอง ยาว ๗๘ เมตร

ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ เปิดโรงเรียนประชาบาล โดยเริ่มต้นใช้ศาลาการเปรียญในการสอน ต่อมาพัฒนาเป็นโรงเรียนวัดโพงพาง

ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ ๑ หลัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๑ เมตร

หลวงพ่อพูน ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคลมเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ นับรวมเวลาที่ท่านปกครองวัดได้ ๒๗ ปี.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อพูน วัดโพงพาง

เหรียญหลวงพ่อพูน วัดโพงพาง รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยพระครูสมุทรจารุวัฒน์ เจ้าอาวาสรูปถัดมา เพื่อแจกในงานฌาปนกิจของหลวงพ่อพูน ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้