สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง: ประวัติและวัตถุมงคลพระครูสุทธิสุนทร (หลวงพ่อแฉล้ม) วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร

หลวงพ่อแฉล้ม วัดตึก สมุทรสาคร

หลวงพ่อแฉล้ม หรือ พระครูสุทธิสุนทร อดีตเจ้าอาวาสวัดตึกมหาชยาราม ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

หลวงพ่อแฉล้ม ท่านมีนามเดิม แฉล้ม ชูรอด พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านอำเภอหนองแขม จังหวัดธนบุรีรี เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๗ โดยไม่ปรากฏชื่อโยมบิดาและโยมมารดาของท่าน ท่านมีพี่น้องร่วมสายโลหิตทั้งหมด ๗ คนโดยท่านเป็นบุตรคนที่ ๖

ต่อมาได้ย้ายถิ่นฐานตามโยมบิดาและโยมมารดามาอยู่ที่บ้านบางเตย ใกล้วัดเกาะวังไทร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ หลวงพ่อแฉล้ม ท่านมีอายุได้ ๑๗ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร ณ พัทธสีมาวัดพระงาม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมี

พระปลัดมณี วัดพระงาม เป็นพระอุปัชฌาย์

ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ - ๒๔๖๖ ขณะยังเป็นสามเณร ท่านได้เข้าเรียนภาษาไทยที่โรงเรียนพระปฐมเจดีย์เป็นเวลา ๒ ปี จนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

ปี พ.ศ. ๒๔๖๘ หลวงพ่อแฉล้มมีอายุย่าง ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดพระปฐมเจดีย์ฯ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้รับฉายาว่า "กลฺยาโณ" โดยมี

พระธรรมวโรดม(โชติ) วัดพระปฐมเจดีย์ฯ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระครูปลัดโท้ วัดพระปฐมเจดีย์ฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระปลัดมณี วัดพระงาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระปฐมเจดีย์ฯ เรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และภาษาบาลี ต่างๆจนเชี่ยวชาญ

ปี พ.ศ. ๒๔๖๘ สอบได้นักธรรมตรี ในสำนักเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ฯ

ในปีนั้น เมื่อถึงเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘ หลวงพ่อสาย (วัดหนองสองห้อง) ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตึกฯได้ถูกกล่าวหาเกิดอธิกรณ์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์หลวงพ่อสายจึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและลาสิกขาบทกลับบ้านเกิดในวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ทางวัดจึงขาดเจ้าอาวาส

ปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงพ่อแฉล้มจึงได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ติดตามพระธรรมสิริชัย (ชิต ชิตวิปุโล) มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด เมื่อครั้งยังเป็นพระมหาชิต โดยหลวงพ่อแฉล้มได้มาช่วยปฏิบัติศาสนกิจ และอยู่จำพรรษา ณ วัดตึกมหาชยาราม ดังมีปรากฏรายนามพระอนุจรดังนี้

๑. พระมหาชิต ชิตวิปุโล มาเป็นเจ้าอาวาส

๒. พระแฉล้ม กลฺยาโณ วัดพระปฐมเจดีย์

๓. พระเปี่ยม วัดพระปฐมเจดีย์

๔. พระทองหล่อ วัดช่างทอง อยุธยา

๕. พระเยื้อน วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ

๖. พระมหากิ่ง ป.ธ.๕ วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ

ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ท่านได้ร่วมกับหลวงพ่อชิต เป็นผู้ดำเนินการขอจัดตั้ง โรงเรียนสอนบาลี ที่วัดตึกมหาชยาราม

ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ - ๒๔๗๒ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ชั้นนักธรรมตรี วัดตึกมหาชยาราม

ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ - ๒๔๗๔ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ณ วัดช่างทอง อยุธยา

ปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ได้รับแต่งตั้งเป็น พระปลัด ฐานานุกรมใน พระสมุทรคุณากร

ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะแขวงบ้านแพ้ว(ต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอ)

ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ที่ พระครูสุทธิสุนทร ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เล่ม ๕๘ หน้า ๕๐๒

ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดตึกฯ จังหวัดสมุทรสาคร

ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ พระสมุทรคุณากร ( ชิต ชิตวิปุโล ) เจ้าอาวาสวัดได้ย้ายกลับไปที่วัดพระปฐมเจดีย์ฯ (ไปเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๙๗ - ๒๕๒๗) หลวงพ่อแฉล้มจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดตึกฯ จังหวัดสมุทรสาคร ทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อแฉล้ม วัดตึก สมุทรสาคร

วัดตึกมหาชยาราม เดิมเรียก วัดคงคาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดมหานิกายในตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๓๐ ในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญที่ ๘ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) ต่อมาได้ร้างลงไม่มีพระอยู่จำพรรษา

จนมาถึงในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้มีนายอากรชาวจีนแผ่นดินใหญ่ชื่อ ตั๋วตี๋ ได้เดินทางมาพักแรม ณ หน้าบริเวณวัด แล้วเกิดนิมิตรขึ้นในคืนนั้นว่า พระประธานในอุโบสถได้แนะนำให้ไปตั้งหลักฐานรกราก ณ บริเวณแม่น้ำสมุทรปราการจะมีโชคลาภใหญ่อย่างแน่นอน

และเมื่อไปตั้งตามที่ได้นิมิตรแล้วนั้นปรากฏว่า นายตั๋วตี๋ท่านนั้นได้มีความรุ่งเรืองในอาชีพการงาน จนร่ำรวยขึ้นมา จึงได้กลับมาบูรณะวัดโดย สร้างวัดคงคารามขึ้นใหม่ เช่น สร้างกุฏิเป็นตึกแบบจีน จำนวน ๒ หลัง วิหาร ๑ หลัง ตั้งแต่บัดนั้นมา ชาวบ้านจึงไ้ด้เรียกวัดใหม่ว่า "วัดตึก"

จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๘ พระธรรมสิริชัย(ชิต ชิตวิปุโล) มาดำรงเจ้าอาวาสจึงได้เริ่มให้มีการศึกษาสอนบาลี และมีพระภิกษุสอบได้มหาเปรียญเป็นจำนวนมาก

วัดได้เปลี่ยนนามมาเป็น "วัดตึกมหาชยาราม" และใช้ชื่อนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ วัดมีเจ้าอาวาสที่ปรากฏเป็นหลักฐาน มีรายนามดังต่อไป

๑. พระอุปัชฌาย์ ศรี ( พ.ศ. ไม่มีปรากฏ )

๒. พระครูสมุทรคุณากร ( นิน ) พ.ศ.๒๔๓๕ - ๒๔๖๕

๓. พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์ ( สาย สุกกปุณโณ ) พ.ศ. ๒๔๖๕ - ๒๔๖๘ (ลาสิกขา)

๔. พระสมุทรคุณากร ( ชิต ชิตวิปุโล ) ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ นฐ. พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๙๕

๕. พระครูสุทธิสุนทร ( แฉล้ม กลฺยาโณ ) ลาออกกลับวัดพระปฐมเจดีย์ นฐ. พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๐๐

๖. พระสมุทรคุณากร ( ยรรยง ติสฺสเทโว ) พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๓๕

๗. พระครูเมธีสาครเขต (ชื่น รติวฑฺฒโน ) พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๔๗

๘. พระครูสาครคุณากร ( เชิญ ปุญฺญกาโม ) พ.ศ. ๒๕๔๗ - ๒๕๔๘

๙. พระอธิการ ชำนาญ กนฺตวณฺโณ พ.ศ.๒๕๔๘ - ปัจจุบัน

หลังจากที่หลวงพ่อแฉล้มท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดจนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลังจากปกครองวัดตึกฯ ได้ ๕ ปี ท่านจึงได้ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด เดินทางไปจำพรรษา ณ วัดพระปฐมเจดีย์ฯ อีกครั้ง

หลวงพ่อแฉล้ม จำพรรษาที่วัดพระปฐมเจดีย์ฯ เรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เวลา ๐๔.๔๐ น. นับรวมสิริอายุได้ ๙๕ ปี ๗๔ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อแฉล้ม วัดตึกมหาชยาราม

เหรียญหลวงพ่อแฉล้ม วัดตึกฯ ออกวัดพระปฐมเจดีย์ รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ เพื่อแจกในงานทำบุญอายุครบ ๘๘ ปี ของหลวงพ่อ ลักษณะเหรียญเป็นรูปปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยมีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อแฉล้ม วัดตึก สมุทรสาคร ออกวัดพระปฐมเจดีย์ 2534 ทองแดง

เหรียญหลวงพ่อแฉล้ม วัดตึก สมุทรสาคร ออกวัดพระปฐมเจดีย์ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ เนื้อทองแดง

ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อแฉล้มนั่งสมาธิเต็มองค์ องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูสุทธิสุนทร(แฉล้ม) อายุ ๘๘ ปี" ที่สังฆาฏิมีการตอโค้ดรัศมี

ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ใต้อักขระยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "วัดพระปฐมเจดีย์ ๒๕๓๔"

เหรียญหลวงพ่อแฉล้ม วัดตึกฯ ออกวัดพระปฐมเจดีย์ รุ่นสอง

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อแจกในงานศพของหลวงพ่อ ลักษณะเหรียญเป็นรูปปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว โดยมีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้